รู้ไว้ ไม่เชย! เทรนด์แพคเกจจิ้งมาแรง ปี 2018
แพกเกจจิ้งออกแบบ
12 May 2020
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เจอแพคเกจจิ้งสินค้า รูปร่าง น่าตาน่าสนใจ
แต่แบบไหนกันนะ ที่ตอบโจทย์เข้ายุคสมัยได้ดีที่สุด?
ถ้าคุณยังไม่รู้ รีบมาดูกันนะครับ กับเทรนด์ออกแบบแพคเกจจิ้งมาแรง
รับปี 2018 ที่ LoCoPack รวบรวมมาไว้ให้
เดี๋ยวจะเชย เอ้าท์ หรือตกรุ่นไป แล้วจะหาว่าเราไม่เตือน :)
1. เรียบง่ายสไตล์มินิมัล
เทรนด์การออกแบบสไตล์เรียบง่าย หรือที่วัยรุ่นติดปากเรียกกันว่า “มินิมัล”
จริงๆแล้วเทรนด์นี้มีมาได้สักพักแล้วนะครับ แต่ว่าก็ยังถือเป็นเทรนด์มาแรงของช่วงปีหน้าอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณสนใจจะออกแบบแพคเกจจิ้งสไตล์มินิมัลกับเขาบ้าง โจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตกก็ คือการเสาะหา สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ที่เชื่อมโยงไปถึงผู้พบเห็นซึ่งสามารถสื่อได้ชัดว่า สินค้าชนิดนี้คืออะไร ทำงานอย่างไร ได้มากที่สุด เพื่อให้แพคเกจจิ้งข้อความน้อย ดูเรียบง่ายได้มากนั่นเอง
2. อบอุ่นใจด้วยสีพาสเทล
จากที่ตกเทรนด์กันไปนาน สำหรับปี 2018 นี้นั้น ความฮอตฮิตของ “โทนสีพาสเทล” กำลังกลับมาอีกครั้ง! ด้วยโทนสีอบอุ่น แฝงความสงบเสงี่ยมแต่กิ๊บเก๋ ให้แพคเกจจิ้งที่ใช้สีพาสเทล ดูเป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค นอกจากนี้คุณสมบัติของสีพาสเทลคือการทำหน้าที่เสมือนเป็น “แสงสว่าง” ไปในตัว ซึ่งแสงสว่างนี่ไงครับที่เป็นพลังงานดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจ
3. สนุกได้ด้วยลายเส้นดูเดิ้ล
Doodle หรือ ลายเส้นขยุกขยิก ที่กำลังฮิตมากในโลกออนไลน์ ได้ถูกจัดระบบเข้าเป็นดีไซน์แพคเกจจิ้งที่อินเทรนด์มากในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะนอกจากลายเส้นขยุกขยิก แบบไม่ได้ตั้งใจวาดขึ้นมาสามารถช่วยกระชากวัย สร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวย เหมือนได้หวนกลับไปนั่งวาดรูปเล่นสมัยเป็นเด็กได้แล้วนั้น ลายเส้นดูเดิ้ลยังสามารถสร้างอารมณ์สนุกสนาน ครื้นเครงให้กับตัวสินค้าได้มากเลยทีเดียว
4. โปสเตอร์ภาพยนตร์
นอกจากจะดูแปลกใหม่ ต้องตาผู้บริโภค แฟนคลับภาพยนตร์ และนักสะสมแล้ว การใช้สไตล์การออกแบบแพคเกจจิ้งที่อิงจากโปสเตอร์หนังเรื่องโปรด ยังเป็นกรรมวิธีบอกเล่าเรื่องราว และสื่อถึงภาพลักษณ์ ข้อมูลของสินค้าได้อย่างแนบเนียน
5. ชัดเจนด้วยอักษรตัวใหญ่
หากคุณคือเจ้าของสินค้าที่อยากนำเสนอข้อมูลของสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าแบบตรงไปตรงมา การเลือกใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ เห็นชัด คือตัวเลือกเพื่อการออกแบบที่ใช่และน่าตรงใจเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถเติมลูกเล่นด้วย การเลือกใช้ฟ้อนต์สวย สีที่ดูดี หรือแม้แต่การแต่งเสริมข้อความด้วยมุขตลก สนุกๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
6. โดดเด่นด้วยรูปทรงแปลกตา
เหมาะสำหรับผู้ที่อยากสร้างความโดดเด่นให้สินค้า แต่ไม่อยากเน้นเฉพาะแค่เรื่องสี หรือข้อความบนแพคเกจจิ้ง การเลือกใช้แพคเกจรูปทรงแปลกใหม่ แปลกตาไปเลยคืออีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเชื่อเถอะครับ ด้วยเอกลักษณ์ของรูปทรงแพคเกจนี้ ผลิตภัณฑ์ของคุณจะไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน
7. วินเทจ เก่าๆแต่เก๋า
เราจะก้าวสู่ยุคสมัยใหม่โดยไม่ให้ความสำคัญกับอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ สำหรับวงการการออกแบบแพคเกจจิ้งก็เช่นกัน แม้จะก้าวเข้าปี 2018 แต่ทั้งนักออกแบบและผู้บริโภคล้วนต่างยังซูฮกแพคเกจจิ้งสไตล์วินเทจสุดเก๋ากันอยู่ นอกจากนี้แพคเกจจิ้งวินเทจ ยังให้ความรู้สึกถึงความละเอียดชดช้อย ของทั้งเรื่องการออกแบบ และตัวผลิตภัณฑ์
8. ออกแบบด้วยภาพถ่าย
การผสมผสานภาพถ่ายลงในการออกแบบแพคเกจจิ้ง เช่น การใช้วิธี Collage คืออีกเทรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองนะครับ เพราะลูกเล่นดังกล่าวมักให้มุมมองแปลกใหม่ น่าหยุดดูอยู่เสมอ อย่างในภาพตัวอย่างต่อไปนี้ ที่ผู้ออกแบบนำภาพถ่ายของเจ้าหมีมาตัดแปะกับอุปกรณ์ของพ่อครัว เกิดเป็นดีไซน์ของอาหารกระป๋องที่แปลกใหม่ดูสนุก น่ามองอยู่ไม่น้อย
9. เทคนิคฮอโลกราฟี
การนำเอาเทคนิคโฮโลกราฟีมาใช้กับการออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ อีกหนึ่งดีไซน์สำหรับยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง นอกจากเสริมสร้างลุคหรูหราให้กับสินค้า การใช้โฮโลกราฟีกับวัสดุชนิดใดๆก็ตาม สามารถเปลี่ยนจากกระดาษ หรือพลาสติกธรรมดาๆ ให้มีลูกเล่นทั้งแสงและเงาที่น่าดูชม
10. ไล่สี เพื่อความทันสมัย
ลองดูไอคอนของอินสตราแกรมรุ่นใหม่ดู คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความทันสมัยมากกว่าเดิมใช่ไหมครับ? นั่นไงล่ะ คือสิ่งที่การออกแบบด้วยเทคนิคไล่สี สามารถทำให้ผู้พบเห็นสัมผัสได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บนท้องตลาดอีกหลายชิ้นเริ่มหันมาใช้ลูกเล่นนี้กันมากขึ้น เพราะใครเล่า จะไม่อยากให้สินค้าของตัวเองดูดี ทันสมัย ขึ้นมากับเขาบ้าง
Credit: 99designs
สนใจแพคเกจกจิ้งแบบนี้บ้าง
เริ่มเลยบทความที่เกี่ยวข้อง
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
คือเรื่องง่ายที่ใครก็รู้
แต่คำถามที่ว่า “จะออกแบบแพคเกจจิ้งแบบไหนให้ออกมาดี?”
นี่สิ คือเรื่องยาก ที่คุณต้องหาคำตอบ
ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากดีไซน์แพคเกจจิ้งดีๆเพื่อสินค้าคุณ
แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คุณมาถูกทางแล้วครับ
สำหรับปัญหาข้อนี้ LocoPack มีทางออกให้กับคุณ
เพียงลองตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้ให้ได้ เพราะถ้าตอบได้แล้วก็จะสามารถทราบได้ในทันที
ว่าแนวทางเพื่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณควรเป็นอย่างไร
1. สินค้าของคุณคืออะไร?ก่อนอื่นเพื่อกำหนดลักษณะโดยรวมของแพคเกจจิ้ง ลองพิจารณากันก่อนครับ
ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทไหน ทำจากอะไร ขนาดเท่าไร ความคงทนเป็นอย่างไร
เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งทั้งสิ้น
ในขณะที่สินค้าเปราะบางแตกง่าย ต้องการบรรจุภัณฑ์มั่นคงแข็งแรง รองรับการกระแทกขณะขนส่ง
สินค้ารูปทรงแปลกตา อาจต้องการบรรจุภัณฑ์ออกแบบพิเศษที่พิถีพิถันมากกว่าการเลือกใช้กล่องรูปทรงธรรมดา 2. ใครคือผู้ซื้อสินค้า?ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ ใครคือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคุณ?
เพราะกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ย่อมถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจจิ้งที่แตกต่างกัน
ในขณะที่แพคเกจจิ้งสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่หรือสูงวัย ควรเป็นการดีไซน์แบบง่าย และมีตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นข้อความได้ชัดเจน การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดูเปรี้ยวเท่หรูหราก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามีฐานะที่ชอบความโก้หรูดูดี
ดังนั้นการทราบก่อนว่าผู้ซื้อสินค้า คือกลุ่มบุคคลประเภทไหน เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น3. สินค้าจะถูกจำหน่ายอย่างไร ?ลองพิจารณาสักนิด สินค้าของคุณนั้นถูกจำหน่าย ซื้อขายในช่องทางไหน
เป็นการตั้งสินค้าหน้าร้าน ซื้อมาจำหน่ายไปแบบปกติ หรือผ่านการสั่งซื้อออนไลน์?
เมื่อสถานที่ขายสินค้าต่าง กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต่างกัน
หากเป็นการวางสินค้าบนชั้นวาง มีคู่แข่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน
สินค้าของคุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดสายตา
แต่ถ้าสินค้าของคุณเน้นช่องทางการขายบนโลกออนไลน์
คุณก็ต้องมองหาการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ให้ความสะดวก
และเหมาะสมกับการขนส่งทางไกลมากกว่าภาพลักษณ์แพคเกจจิ้งที่ต้องโดดเด่นกว่าใครCredit: 99designs
ออกแบบ 11 May 2020
พอถึงสิ้นปีทีไร แวดวงการออกแบบ รวมทั้งวงการแฟชั่น ก็ได้เวลาลุ้นตัวโก่งกันทุกที
ว่าปีนี้ บริษัทสีเจ้าแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง Pantone จะเลือกสีใด เป็นโทนสีแห่งปีของปีถัดไป
สำหรับปีนี้เองก็เช่นกันครับ แต่ทว่า ตอนนี้เราไม่ต้องลุ้นให้ตื่นเต้นกันอีกต่อไปแล้ว เพราะ Pantone ประกาศออกมาให้โลกรับรู้แล้วว่า สีม่วง Ultra Violet รหัส 18–383 คือสีแห่งปี 2018!
ซึ่งเมื่อ Pantone ประกาศผลมาปุ๊บ LocoPack ก็ไม่อยากรอช้า ขอนำเสนอข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเจ้าสีม่วงสุดเย้ายวนผ่านบทความนี้กันเลย
ULTRA VIOLET สำหรับกราฟฟิกและแพคเกจจิ้งดีไซน์แฝงไปด้วยความซับซ้อน ดูลึกลับ แต่ให้ความรู้สึกกลมกลืน สีม่วง Ultra Violet ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นโทนสีแห่งปีสำหรับแวดวงการออกแบบกราฟฟิกและแพคเกจจิ้ง ซึ่งผลการคัดเลือกครั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับทิศทางของผลงานดีไซน์เนอร์จากทั่วโลกเป็นอย่างดี ดั่งที่ปรากฏให้เห็นในเทรนด์การออกแบบแพคเกจจิ้ง สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเสริมความงาม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์หรู ซึ่งนับวันจะยิ่งเน้นความซับซ้อนและมิติของการออกแบบที่มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ULTRA VIOLET และวงการแฟชั่นด้วยคุณสมบัติที่มีความเป็นกลางระหว่างเพศหญิงและเพศชาย ตัวเลือกอย่างสีม่วง Ultra Violet ที่ผสมผสานกันระหว่างพื้นสีของสีแดง และสีฟ้า ได้ถูกหยิบยกเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้ออกแบบ ผู้ผลิตและผู้บริโภคทุกๆเพศ นอกจากนี้ความเข้ากันได้ดีกับสี และวัสดุที่หลากหลายอย่างไม่จำกัด อาทิ การใช้สีทองกับสีม่วงเพื่อให้บรรยากาศหรูหรา การใช้สีเขียวเทากับสีม่วงก็ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การจับคู่ผ้าหรูอย่างกำมะหยี่กับสีม่วงสำหรับชุดราตรีงานกลางคืน ก็ดูเข้ากันได้ดีไม่แพ้การเลือกใช้สีม่วงสำหรับสินค้านักกีฬา หรือรองเท้าผ้าใบ ULTRA VIOLET ในแวดวงความงาม ถือเป็นมนต์ขลังของสีม่วง Ultra Violet ที่สามารถใช้เสริม แต่งประกายเพื่อเพิ่มความงามน่าหลงใหลให้กับทุกๆคน ด้วยความนุ่มลึกแบบเป็นธรรมชาติที่เข้ากันได้ดีกับความลงตัวของการผสมสี ไล่สี สีม่วงได้ถูกคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความงามในวงการแฟชั่นผ่านหลายกรรมวิธีการใช้ ไม่ว่าการใช้สีม่วงเดี่ยวๆ เพื่อทาเป็นลิปสติก หรือใช้เป็นสีเล็บสามารถที่สร้างเอกลักษณ์มั่นใจปนเท่ห์ ให้กับผู้เลือกใช้ หรือการใช้สีม่วงผสมกับสีเมทาลิกเพื่อใช้กับเปลือกตาให้เจ้าของดวงตาดูลึกลับ เป็นปริศนาดั่งสีของจักรวาลก็นับเป็นอีกเคล็ดลับวิธีสร้างความน่าดึงดูดที่น่าสนใจ นอกจากนี้สีม่วงยังได้ถูกเลือกใช้เป็นเฉดสีสำหรับการย้อมเส้นผมที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้นในมุมมองความงามแบบ Street StyleULTRA VIOLET เพื่อการแต่งบ้าน หากกำลังมองหาหนทางเพื่อเปลี่ยนห้องแบบเดิมๆให้เป็น ห้องที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากขึ้น การเลือกใช้สีม่วง Ultra Violet นับเป็นวิธีที่น่าสนใจที่ Pantone เสนอ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสีต่างๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว การจับคู่สีม่วงกับสีสันโทนสดใสหรือ สีสว่างสามารถช่วยฉุดความโดดเด่นของเครื่องแต่งบ้านชิ้นอื่นๆ นอกจากนี้สีม่วง ยังนับเป็นสีที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในทุกๆห้องของบ้าน หรืออาคารได้ด้วยเช่นกัน Credit: Pantone
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้ให้แนวทางการออกแบบแพคเกจจิ้ง
ผ่าน 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องตอบได้ก่อนเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์กันไปแล้ว
สำหรับบทความในวันนี้ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ที่อยากออกแบบแพคเกจจิ้งดีๆ
ที่จะช่วยเพิ่มยอดไลค์ อัพยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้ได้
LocoPack ขอกระเถิบลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกสักหน่อยนะครับ
โดยขอพูดต่อกันถึง “ข้อมูลที่คุณต้องมีพร้อม” เพื่อการสร้าง
และผลิตแพคเกจจิ้งดีๆ พร้อมใช้งานที่จะออกมาตรงใจผู้ขาย และถูกใจผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน
1. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพราะสินค้าและแพคเกจจิ้ง คือสื่อสำคัญเพื่อการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้าและผู้พบเห็น
ดังนั้นการออกแบบแพคเกจจิ้งจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอัตลักษณ์ของแบรนด์
โดยก่อนการเริ่มออกแบบ คุณควรมีข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ดังต่อไปนี้ครบถ้วนกันเสียก่อน
สีหลัก เฉดสีที่เลือกใช้: ชื่อสี โค้ดสี
ฟ้อนต์ตัวอักษร: ให้ระบุการใช้ให้ชัดเจน อาทิ ตัวหนาสำหรับหัวข้อ ตัวเล็กบางสำหรับข้อมูลทั่วไป
โลโก้ของแบรนด์: จัดเตรียมประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อการจัดพิมพ์
2. ข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง แต่ละประเภทสินค้า แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลเพื่อการปริ้นท์บนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป
ดังนั้นเพื่อสร้างแพคเกจจิ้งตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมากนะครับ
ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องมีเพื่อระบุบนแพคเกจจิ้ง ก็ได้แก่
ข้อความ: เช่น ชื่อสินค้า คำขวัญ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับสินค้า
รูปภาพ: ไม่ว่าจะภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ขอให้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มต้นการออกแบบ
เครื่องหมายที่จำเป็น: อาทิ บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐ
ข้อมูลอื่นๆ: อาทิ ข้อมูลตามกฎหมาย ที่อาจต้องเปลี่ยนแปลงภายหลัง หรือยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน (ซึ่งคุณไม่อาจจำเป็นต้องปริ้นท์ลงบนแพคเกจจิ้งโดยตรง แต่อย่าลืมเหลือเนื้อที่ สำหรับการเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนนี้ เช่นพื้นที่เพื่อแปะสติ๊กเกอร์ หรือปริ๊นท์ลงในภายหลังด้วยนะครับ)
3. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่ ขอให้รวบรวมแพคเกจจิ้งที่ชอบ เห็นทีไรถูกใจทุกทีไว้เลยนะครับ
เลือกเก็บไว้หลายๆแบบ อาจใช้วิธีการถ่ายภาพ ครอปภาพมาไว้ก็ได้
นอกจากนี้ลองนึกถึงวัสดุสำหรับทำแพคเกจจิ้งของคุณด้วย เพราะข้อมูลของแบบแพคเกจจิ้งที่ชอบ
จะสามารถนำมาประยุกต์รวมกัน หรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง 4. งบประมาณ งบประมาณการผลิต และต้นทุนของแพคเกจจิ้ง คืออีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ
ทั้งนี้ต้นทุน หรือเรื่องเงินๆทองๆของการผลิตแพคเกจจิ้งที่ว่า จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ
ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน
ต้นทุนต่อชิ้น ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อแพคเกจจิ้งหนึ่งชิ้น
นอกจากนี้ อย่าลืมว่า งบประมาณที่ถูกกว่าใช่ว่าดีกว่าเสมอไป เพราะการใช้วัสดุคุณภาพดี การออกแบบมีคุณภาพ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าให้ดูโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างไรก็ตาม การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ให้มีภาพลักษณ์เตะตา น่าดึงดูด ที่คำนึงถึงความเหมาะสม และถูกใจทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถทำได้ในราคาประหยัด และต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิด ไอเดียและความเชี่ยวชาญในการออกแบบแพคเกจจิ้งนั่นเอง
Credit: 99designs