อยากผลิตซองตั้งราคาถูก ทำยังไง บทความนี้มีคำตอบ

แพกเกจจิ้งออกแบบ
02 October 2024
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink
อยากผลิตซองตั้งราคาถูก ทำยังไง บทความนี้มีคำตอบ

อยากผลิตซองตั้งราคาถูก ทำยังไง บทความนี้มีคำตอบ

รับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง รับทำกล่องบรรจุภัณฑ์ Loco Pack พร้อมดีไซน์แพคเกจจิ้ง ราคาถูก ครบวงจร โดยสั่งขั้นต่ำเพียง 100 ชิ้น แค่มีโลโก้ ก็สร้างแพคเกจจิ้งสวย ๆ ได้   

ทำความรู้จักกับ Loco Pack กันก่อน Loco Pack คือใคร? 

Loco Pack เราคือผู้เชี่ยวชาญด้านการรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง รับทำแพคเกจจิ้งกล่อง รับทำกล่องบรรจุภัณฑ์ ทั้งการออกแบบ ผลิตแพคเกจจิ้งสำหรับธุรกิจ และการเริ่มต้นสร้างแบรนด์เป็นของตนเอง ซึ่งตอบโจทย์ต่อองค์กรที่ประสบปัญหาด้านการพัฒนาบรรจุภัณฑ์ทั้งงบประมาณ แหล่งผลิต และแนวคิดการออกแบบบรรจุภัณฑ์ Loco Pack สามารถช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ให้กลายเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้น คุณจึงสามารถพัฒนาบรรจุภัณฑ์ในสไตล์ของตนเองตามที่ต้องการได้ จากนั้นจึงใส่โลโก้แบรนด์ที่มีความโดดเด่นลงไป สามารถสั่งผลิตได้โดยมีขั้นต่ำเพียง100 ชิ้นขึ้นไป ในราคาสุดประหยัด นอกจากนี้ยังมีรูปแบบการใช้งานผ่านระบบออนไลน์ที่มีความสะดวก รวดเร็ว เพียงแค่ทำการกดเลือกรูปแบบของกล่องที่ต้องการ ใส่ขนาด ก็จะสามารถทราบราคาของบรรจุภัณฑ์แบบที่ต้องการได้ทันที พร้อมบริการจัดส่งตรงถึงที่ ทำให้สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ แพคเกจจิ้งมีความสวยงาม และยังช่วยปกป้องสินค้าที่อยู่ภายในได้เป็นอย่างดี ตอบโจทย์ ครบได้ในที่เดียว


การออกแบบบรรจุภัณฑ์มีประโยชน์ยังไง?

การออกแบบบรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้ง ถือเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนที่กำลังทำธุรกิจต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เพราะแพคเกจจิ้งที่มีความสวยงามและมีเอกลักษณ์จะสามารถช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้าได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้คนเริ่มหันมาใช้บริการรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง หรือ รับทำแพคเกจจิ้งกล่อง กันมากขึ้น ซึ่งการออกแบบบรรจุภัณฑ์จะมีประโยชน์ดังต่อไปนี้

  • ช่วยให้สามารถดึงดูดและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว

การออกแบบแพคเกจจิ้งด้วยสีสันที่สะดุดตา ลวดลายที่ทันสมัย โลโก้ร้านชัดเจน และมีฟังก์ชันการใช้งานที่แปลกใหม่จะช่วยให้เราสามารถสร้างบรรจุภัณฑ์ที่มีความสวยงาม โดดเด่น ไม่เหมือนใคร และยังสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าที่เห็นสินค้าของเราอีกด้วย โดยจะเห็นได้ชัดจากบรรจุภัณฑ์อาหาร หากแพคเกจจิ้งมีความสวยงาม เป็นเอกลักษณ์ของร้านอาหารตนเอง ก็จะสามารถช่วยให้อาหารดูน่ารับประทานขึ้นได้เช่นกัน จึงทำให้พ่อค้าแม่ค้ามีความสนใจที่จะสั่งทำแพคเกจจิ้งกล่องกันเพิ่มขึ้น 

  • ทำให้เราสามารถขนส่งหรือเคลื่อนย้ายสินค้าได้รวดเร็วมากขึ้น

การออกแบบแพคเกจจิ้งให้กับสินค้าของเราจะช่วยให้เราสามารถทำการขนส่งสินค้าได้อย่างรวดเร็ว ประหยัดเวลาในการคัดแยกสินค้า นอกจากนี้การออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงก็จะสามารถช่วยเพิ่มความสะดวกในการเคลื่อนย้าย หรือ การขนส่งได้มากขึ้นอีกด้วย

  • ช่วยปกป้องสินค้าที่อยู่ภายในแพคเกจจิ้งให้มีความปลอดภัย

การออกแบบบรรจุภัณฑ์นั้นตอบโจทย์ต่อสินค้าที่มีความเปราะบางง่าย หรือ มีความเสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายจากการขนส่ง เพราะการออกแบบแพคเกจจิ้งนั้นจะช่วยให้เราสามารถปกป้องสินค้าที่อยู่ภายในได้ ช่วยลดความเสียหายที่อาจมาจากการขนส่งได้ 

วัสดุที่ Loco Pack นิยมนำมาใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์มีอะไรบ้าง?

ในปัจจุบันเราจะสามารถพบเห็นแพคเกจจิ้งที่ทำมาจากวัสดุต่าง ๆ ที่มีความแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่ต้องการบรรจุ ซึ่งวัสดุที่บริษัทรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้งนิยมนำมาใช้ผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์จะมีดังนี้

  1. กระดาษ - เป็นวัสดุที่พบเห็นได้บ่อย ส่วนใหญ่จะเป็น กระดาษแข็ง กระดาษลูกฟูก หรือ กระดาษคราฟท์

วัสดุประเภทนี้สามารถช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ผู้คนเริ่มหันมาใช้บริการรับทำแพคเกจจิ้งกระดาษกันมากขึ้น

  1. พลาสติก - ส่วนใหญ่ส่วนใหญ่พบได้ในร้านอาหาร เช่น จานชาม แก้วน้ำ หรือ ถุงพลาสติก

  2. โฟม - มีน้ำหนักเบา และมีราคาถูกกว่าวัสดุประเภทอื่น สามารถกันกระแทกได้เป็นอย่างดี

  3. เหล็ก - มักเป็นสินค้าจำพวกของเหลวที่สามารถเก็บได้นาน เช่น ปลากระป๋อง หรือ ซอสมะเขือเทศ เป็นต้น

ออกแบบแพคเกจจิ้งยังไงให้ประสบความสำเร็จ 

การออกแบบแพคเกจจิ้ง หรือ บรรจุภัณฑ์ ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการทำธุรกิจ เพื่อดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมาย หรือ ลูกค้ามีความประทับใจในบรรจุภัณฑ์ของเราตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เห็น ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการเพิ่มยอดขายสินค้าได้นั้นเอง โดยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ประสบความสำเร็จจะมีเทคนิคดังต่อไปนี้ 

  • ออกแบบแพคเกจจิ้งให้แปลกใหม่และแตกต่างกับคู่แข่ง

การสร้างบรรจุภัณฑ์ให้มีความแปลกใหม่และไม่ซ้ำใครนั้นจะเป็นการสร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์สินค้าของเรา หากสินค้าของมีแพคเกจจิ้งที่ไม่เหมือนใคร ใช้งานง่าย ก็จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มีความสนใจเพิ่มมากขึ้นได้



  • ใส่ใจเรื่องรายละเอียดของสินค้าบนแพคเกจจิ้งอยู่เสมอ

หากบรรจุภัณฑ์ของเรามีรายละเอียดต่าง ๆ ของสินค้าที่อยู่ภายในอย่างครบถ้วน เช่น วันผลิต วันหมดอายุ รายละเอียดส่วนประกอบ วิธีการเก็บรักษา หรือวิธีการใช้งาน ซึ่งตอบโจทย์ต่อการใช้งานของลูกค้าก็จะช่วยให้สามารถกลุ่มเป้าหมายตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

  • บอกเล่าจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ของสินค้าเราให้ชัดเจน

การสร้างแพคเกจจิ้งโดยใส่จุดเด่นของสินค้าเราลงไปด้วยก็จะยิ่งสร้างความน่าสนใจให้กับกลุ่มลูกค้าได้มากขึ้นตามมา เช่น การไม่ใช้ผงชูรส, Organic 100%, ไม่ใส่วัตถุกันเสีย, ไม่มีแอลกอฮอล์ หรือ ทำสดใหม่ทุกวัน คำพูดเหล่านี้จะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น

  • ให้บริษัทรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้งช่วยออกแบบให้

บริษัทรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง, รับทำแพคเกจจิ้งกล่อง หรือ รับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นมักมีความรู้และความเชี่ยวชาญในด้านการทำแพคเกจจิ้ง ซึ่งจะสามารถให้คำแนะนำในการทำบรรจุภัณฑ์ของเรามีความโดดเด่นมากขึ้นได้ และเรายังสามารถประหยัดเวลา ไม่ต้องนั่งออกแบบด้วยตนเองอีกด้วย 


ทำไมต้องใช้บริการรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้งกับ Loco Pack? 

Loco Pack เป็นบริษัทรับทำกล่องบรรจุภัณฑ์ รับออกแบบกล่องบรรจุภัณฑ์ทุกชนิด รับแพคเกจจิ้งกระดาษที่สามารถบรรจุสินค้าได้แทบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นอาหาร เครื่องสำอาง ครีม ผลไม้ เสื้อผ้า กล่องลังสำหรับส่งสินค้า และปลอกสำหรับใส่แก้ว รวมถึงสินค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับแบรนด์หรือผู้ที่ต้องการผลิตกล่องใส่สินค้าเป็นของตัวเอง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทำการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ตามความเหมาะสมกับสินค้าแต่ละชนิด แต่ละขนาด ตามที่ลูกค้าต้องการได้ 

  1. เราให้บริการรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง ทุกชนิด แบบครบวงจร

Loco Pack พร้อมให้บริการครบทุกเรื่องบรรจุภัณฑ์ เราดูแลตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงขั้นตอนการผลิต รับผลิตกล่อง ทำกล่องบรรจุภัณฑ์ตามขนาด มีรูปแบบของบรรจุภัณฑ์ให้เลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นกล่องลูกฟูก, กล่องกระดาษแข็ง, ป้าย- TAG, ปลอก, สติกเกอร์และขวด เพื่อรองรับสินค้าสำหรับใส่บรรจุภัณฑ์แทบทุกประเภท นอกจากนี้จำนวนที่เริ่มต้นผลิต ขั้นต่ำเพียงแค่ 100 กล่องเท่านั้น สามารถเลือกขนาดและสไตล์ที่ต้องการได้เลย ครบจบในที่เดียว

  1. ลูกค้าสามารถเลือกออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ได้ตามความต้องการ

ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะรับ Template จากทาง Loco Pack ไปออกแบบเองตามความต้องการของลูกค้า, ออกแบบออนไลน์บนเว็บไซต์ Loco Pack และหากลูกค้าท่านใดที่ไม่ได้มีไอเดียหรือแบบที่คิดจะทำมาก่อน ก็สามารถให้ Loco Pack ช่วยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ได้เช่นกัน 




  1. สะดวก ระยะเวลาในการผลิตสั้น ทำให้ได้รับสินค้าภายในเวลาอันรวดเร็ว

ทาง Loco Pack ใช้ระยะเวลาในการผลิตแพคเกจจิ้งตามคำสั่งซื้อเพียง 5 วัน หลังยืนยันแบบเพื่อการผลิต 

  1. เราใช้ zero waste packaging เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

เราเน้นการใช้งานบรรจุภัณฑ์ที่สามารถเติมเต็มสินค้าได้หลายครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยลดปัญหาปริมาณขยะจากการทิ้งบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เพียงครั้งเดียว และสร้างความสะดวกในการส่งเสริมการใช้งานซ้ำ ๆ ได้อย่างลงตัว อีกทั้งการผลิตบรรจุภัณฑ์ยังกระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดอีกด้วย

  1. เรามีช่องทางการติดต่อที่หลากหลายให้คุณเลือก

โดยคุณจะสามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของเราผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

โทร: 089-967-6235

E-mail: support@locopack.com

Facebook: locopack.co

LINE: @locopack

  1. สามารถรับคำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์กับเราได้ 

คุณสามารถรับชมตัวอย่างงาน Digital Print ของเราก่อนได้ ให้คุณได้มั่นใจในคุณภาพสินค้าของเราก่อนทำการผลิตได้ โดยจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่การส่งรูปสินค้ามา ส่งสินค้าจริงมาให้วัดขนาด ทำแบบกล่อง ออกแบบกราฟิก และแนะนำวัสดุที่จะใช้ทำแพคเกจจิ้ง ให้คุณได้รับบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด



Loco Pack เราเป็นบริษัทรับผลิตกล่องแพคเกจจิ้ง, รับทำแพคเกจจิ้งกล่อง, รับทำกล่องบรรจุภัณฑ์,  รับสั่งทำแพคเกจจิ้งกล่อง, รับทำแพคเกจจิ้งกระดาษ, รับผลิตกล่องลูกฟูกและรับผลิตกล่องบรรจุภัณฑ์หลากหลายรูปแบบ ในราคาสุดประหยัด ด้วยจำนวนสั่งขั้นต่ำเพียง 100 กล่อง พร้อมบริการออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ไม่ว่าจะเป็นกล่อง หรือ ซองใส่ขนมก็สามารถใช้ Template ของเราในการออกแบบได้ตามความต้องการ ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและกระตุ้นยอดขายสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้งที่มีความสวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง Loco Pack พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำโดยนักออกแบบมืออาชีพ เราใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบ One Stop Service เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในด้านบรรจุภัณฑ์ ผู้ประกอบการทุกระดับไม่ว่าจะเล็กหรือเพิ่งเริ่มต้นก็สามารถเข้าถึงการสร้างความเป็นเอกลักษณ์ สื่อสารความโดดเด่นและความแตกต่างของแบรนด์ผ่านแพคเกจจิ้งได้ ให้ Loco Pack ช่วยเหลือคุณได้แล้ววันนี้ 

สนใจแพคเกจกจิ้งแบบนี้บ้าง

เริ่มเลย
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink

อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง
3 คำถามต้องตอบได้ ก่อนเริ่มดีไซน์แพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
คือเรื่องง่ายที่ใครก็รู้ แต่คำถามที่ว่า “จะออกแบบแพคเกจจิ้งแบบไหนให้ออกมาดี?” นี่สิ คือเรื่องยาก ที่คุณต้องหาคำตอบ ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากดีไซน์แพคเกจจิ้งดีๆเพื่อสินค้าคุณ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คุณมาถูกทางแล้วครับ สำหรับปัญหาข้อนี้ LocoPack มีทางออกให้กับคุณ เพียงลองตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้ให้ได้ เพราะถ้าตอบได้แล้วก็จะสามารถทราบได้ในทันที ว่าแนวทางเพื่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณควรเป็นอย่างไร 1. สินค้าของคุณคืออะไร?ก่อนอื่นเพื่อกำหนดลักษณะโดยรวมของแพคเกจจิ้ง ลองพิจารณากันก่อนครับ ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทไหน ทำจากอะไร ขนาดเท่าไร ความคงทนเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งทั้งสิ้น ในขณะที่สินค้าเปราะบางแตกง่าย ต้องการบรรจุภัณฑ์มั่นคงแข็งแรง รองรับการกระแทกขณะขนส่ง สินค้ารูปทรงแปลกตา อาจต้องการบรรจุภัณฑ์ออกแบบพิเศษที่พิถีพิถันมากกว่าการเลือกใช้กล่องรูปทรงธรรมดา 2. ใครคือผู้ซื้อสินค้า?ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ ใครคือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคุณ? เพราะกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ย่อมถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจจิ้งที่แตกต่างกัน ในขณะที่แพคเกจจิ้งสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่หรือสูงวัย ควรเป็นการดีไซน์แบบง่าย และมีตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นข้อความได้ชัดเจน การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดูเปรี้ยวเท่หรูหราก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามีฐานะที่ชอบความโก้หรูดูดี ดังนั้นการทราบก่อนว่าผู้ซื้อสินค้า คือกลุ่มบุคคลประเภทไหน เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น3. สินค้าจะถูกจำหน่ายอย่างไร ?ลองพิจารณาสักนิด สินค้าของคุณนั้นถูกจำหน่าย ซื้อขายในช่องทางไหน เป็นการตั้งสินค้าหน้าร้าน ซื้อมาจำหน่ายไปแบบปกติ หรือผ่านการสั่งซื้อออนไลน์? เมื่อสถานที่ขายสินค้าต่าง กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต่างกัน หากเป็นการวางสินค้าบนชั้นวาง มีคู่แข่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน สินค้าของคุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดสายตา แต่ถ้าสินค้าของคุณเน้นช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ คุณก็ต้องมองหาการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ให้ความสะดวก และเหมาะสมกับการขนส่งทางไกลมากกว่าภาพลักษณ์แพคเกจจิ้งที่ต้องโดดเด่นกว่าใครCredit: 99designs
“Ultra Violet” โทนสีปี 2018 จาก Pantone
ออกแบบ 11 May 2020
พอถึงสิ้นปีทีไร แวดวงการออกแบบ รวมทั้งวงการแฟชั่น ก็ได้เวลาลุ้นตัวโก่งกันทุกที ว่าปีนี้ บริษัทสีเจ้าแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง Pantone จะเลือกสีใด เป็นโทนสีแห่งปีของปีถัดไป สำหรับปีนี้เองก็เช่นกันครับ แต่ทว่า ตอนนี้เราไม่ต้องลุ้นให้ตื่นเต้นกันอีกต่อไปแล้ว เพราะ Pantone ประกาศออกมาให้โลกรับรู้แล้วว่า สีม่วง Ultra Violet รหัส 18–383 คือสีแห่งปี 2018! ซึ่งเมื่อ Pantone ประกาศผลมาปุ๊บ LocoPack ก็ไม่อยากรอช้า ขอนำเสนอข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเจ้าสีม่วงสุดเย้ายวนผ่านบทความนี้กันเลย ULTRA VIOLET สำหรับกราฟฟิกและแพคเกจจิ้งดีไซน์แฝงไปด้วยความซับซ้อน ดูลึกลับ แต่ให้ความรู้สึกกลมกลืน สีม่วง Ultra Violet ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นโทนสีแห่งปีสำหรับแวดวงการออกแบบกราฟฟิกและแพคเกจจิ้ง ซึ่งผลการคัดเลือกครั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับทิศทางของผลงานดีไซน์เนอร์จากทั่วโลกเป็นอย่างดี ดั่งที่ปรากฏให้เห็นในเทรนด์การออกแบบแพคเกจจิ้ง สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเสริมความงาม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์หรู ซึ่งนับวันจะยิ่งเน้นความซับซ้อนและมิติของการออกแบบที่มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ULTRA VIOLET และวงการแฟชั่นด้วยคุณสมบัติที่มีความเป็นกลางระหว่างเพศหญิงและเพศชาย ตัวเลือกอย่างสีม่วง Ultra Violet ที่ผสมผสานกันระหว่างพื้นสีของสีแดง และสีฟ้า ได้ถูกหยิบยกเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้ออกแบบ ผู้ผลิตและผู้บริโภคทุกๆเพศ นอกจากนี้ความเข้ากันได้ดีกับสี และวัสดุที่หลากหลายอย่างไม่จำกัด อาทิ การใช้สีทองกับสีม่วงเพื่อให้บรรยากาศหรูหรา การใช้สีเขียวเทากับสีม่วงก็ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การจับคู่ผ้าหรูอย่างกำมะหยี่กับสีม่วงสำหรับชุดราตรีงานกลางคืน ก็ดูเข้ากันได้ดีไม่แพ้การเลือกใช้สีม่วงสำหรับสินค้านักกีฬา หรือรองเท้าผ้าใบ ULTRA VIOLET ในแวดวงความงาม ถือเป็นมนต์ขลังของสีม่วง Ultra Violet ที่สามารถใช้เสริม แต่งประกายเพื่อเพิ่มความงามน่าหลงใหลให้กับทุกๆคน ด้วยความนุ่มลึกแบบเป็นธรรมชาติที่เข้ากันได้ดีกับความลงตัวของการผสมสี ไล่สี สีม่วงได้ถูกคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความงามในวงการแฟชั่นผ่านหลายกรรมวิธีการใช้ ไม่ว่าการใช้สีม่วงเดี่ยวๆ เพื่อทาเป็นลิปสติก หรือใช้เป็นสีเล็บสามารถที่สร้างเอกลักษณ์มั่นใจปนเท่ห์ ให้กับผู้เลือกใช้ หรือการใช้สีม่วงผสมกับสีเมทาลิกเพื่อใช้กับเปลือกตาให้เจ้าของดวงตาดูลึกลับ เป็นปริศนาดั่งสีของจักรวาลก็นับเป็นอีกเคล็ดลับวิธีสร้างความน่าดึงดูดที่น่าสนใจ นอกจากนี้สีม่วงยังได้ถูกเลือกใช้เป็นเฉดสีสำหรับการย้อมเส้นผมที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้นในมุมมองความงามแบบ Street StyleULTRA VIOLET เพื่อการแต่งบ้าน หากกำลังมองหาหนทางเพื่อเปลี่ยนห้องแบบเดิมๆให้เป็น ห้องที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากขึ้น การเลือกใช้สีม่วง Ultra Violet นับเป็นวิธีที่น่าสนใจที่ Pantone เสนอ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสีต่างๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว การจับคู่สีม่วงกับสีสันโทนสดใสหรือ สีสว่างสามารถช่วยฉุดความโดดเด่นของเครื่องแต่งบ้านชิ้นอื่นๆ นอกจากนี้สีม่วง ยังนับเป็นสีที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในทุกๆห้องของบ้าน หรืออาคารได้ด้วยเช่นกัน Credit: Pantone
“ข้อมูลที่ต้องพร้อม” ก่อนเริ่มออกแบบแพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้ให้แนวทางการออกแบบแพคเกจจิ้ง ผ่าน 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องตอบได้ก่อนเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์กันไปแล้ว สำหรับบทความในวันนี้ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ที่อยากออกแบบแพคเกจจิ้งดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดไลค์ อัพยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้ได้ LocoPack ขอกระเถิบลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกสักหน่อยนะครับ โดยขอพูดต่อกันถึง “ข้อมูลที่คุณต้องมีพร้อม” เพื่อการสร้าง และผลิตแพคเกจจิ้งดีๆ พร้อมใช้งานที่จะออกมาตรงใจผู้ขาย และถูกใจผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพราะสินค้าและแพคเกจจิ้ง คือสื่อสำคัญเพื่อการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้าและผู้พบเห็น ดังนั้นการออกแบบแพคเกจจิ้งจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยก่อนการเริ่มออกแบบ คุณควรมีข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ดังต่อไปนี้ครบถ้วนกันเสียก่อน สีหลัก เฉดสีที่เลือกใช้: ชื่อสี โค้ดสี ฟ้อนต์ตัวอักษร: ให้ระบุการใช้ให้ชัดเจน อาทิ ตัวหนาสำหรับหัวข้อ ตัวเล็กบางสำหรับข้อมูลทั่วไป โลโก้ของแบรนด์: จัดเตรียมประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อการจัดพิมพ์ 2. ข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง แต่ละประเภทสินค้า แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลเพื่อการปริ้นท์บนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อสร้างแพคเกจจิ้งตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมากนะครับ ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องมีเพื่อระบุบนแพคเกจจิ้ง ก็ได้แก่ ข้อความ: เช่น ชื่อสินค้า คำขวัญ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับสินค้า รูปภาพ: ไม่ว่าจะภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ขอให้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มต้นการออกแบบ เครื่องหมายที่จำเป็น: อาทิ บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐ ข้อมูลอื่นๆ: อาทิ ข้อมูลตามกฎหมาย ที่อาจต้องเปลี่ยนแปลงภายหลัง หรือยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน (ซึ่งคุณไม่อาจจำเป็นต้องปริ้นท์ลงบนแพคเกจจิ้งโดยตรง แต่อย่าลืมเหลือเนื้อที่ สำหรับการเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนนี้ เช่นพื้นที่เพื่อแปะสติ๊กเกอร์ หรือปริ๊นท์ลงในภายหลังด้วยนะครับ) 3. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่ ขอให้รวบรวมแพคเกจจิ้งที่ชอบ เห็นทีไรถูกใจทุกทีไว้เลยนะครับ เลือกเก็บไว้หลายๆแบบ อาจใช้วิธีการถ่ายภาพ ครอปภาพมาไว้ก็ได้ นอกจากนี้ลองนึกถึงวัสดุสำหรับทำแพคเกจจิ้งของคุณด้วย เพราะข้อมูลของแบบแพคเกจจิ้งที่ชอบ จะสามารถนำมาประยุกต์รวมกัน หรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง 4. งบประมาณ งบประมาณการผลิต และต้นทุนของแพคเกจจิ้ง คืออีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ ทั้งนี้ต้นทุน หรือเรื่องเงินๆทองๆของการผลิตแพคเกจจิ้งที่ว่า จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน ต้นทุนต่อชิ้น ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อแพคเกจจิ้งหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่า งบประมาณที่ถูกกว่าใช่ว่าดีกว่าเสมอไป เพราะการใช้วัสดุคุณภาพดี การออกแบบมีคุณภาพ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าให้ดูโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างไรก็ตาม การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ให้มีภาพลักษณ์เตะตา น่าดึงดูด ที่คำนึงถึงความเหมาะสม และถูกใจทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถทำได้ในราคาประหยัด และต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิด ไอเดียและความเชี่ยวชาญในการออกแบบแพคเกจจิ้งนั่นเอง Credit: 99designs