ผลิตขั้นต่ำ 100 ชิ้น มีที่ไหนบ้าง Locopack มีคำตอบ!

แพกเกจจิ้งออกแบบ
03 October 2024
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink
ผลิตขั้นต่ำ 100 ชิ้น มีที่ไหนบ้าง Locopack มีคำตอบ!

รับผลิตกล่องลูกฟูก รับผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก รับทำกล่องลูกฟูก Loco Pack ขนาดและสไตล์ตามต้องการ เห็นสินค้าก่อนสั่งทำ ตรงปก รวดเร็ว สั่งขั้นต่ำเพียง 100 ชิ้น 


คุณสมบัติของกล่องลูกฟูกที่น่าสนใจ

กล่องลูกฟูกหนึ่งในประเทภของบรรจุภัณฑ์ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากในกลุ่มผู้ที่ประกอบธุรกิจส่วนตัว เนื่องจากสามารถบรรจุสินค้าได้หลายอย่าง มีให้เลือกใช้งานหลายรูปแบบ อีกทั้งยังมีความแข็งแรงอีกด้วย โดยกล่องลูกฟูกจะมีคุณสมบัติที่น่าสนใจดังนี้

  • มีลักษณะเป็นแผ่นประกบกัน และมีลอนอยู่ตรงกลางระหว่างแผ่น 

  • ลอนลูกฟูกนี้จะสามารถช่วยป้องกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี

  • มีน้ำหนักเบา สามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก

  • สามารถใช้ทดแทนบรรจุภัณฑ์ประเภทอื่น ๆ ได้ เช่น พลาสติก, ไม้

  • สามารถผ่านกระบวนการรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้  


กล่องลูกฟูกมีทั้งหมดกี่ประเภท?

ในปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใช้บริการรับผลิตกล่องลูกฟูก เพื่อมาทำเป็นแพคเกจจิ้งสำหรับบรรจุสินค้าประเภทต่าง ๆ กันมากขึ้น เนื่องจากกล่องลูกฟูกมีความแข็งแรงและคงทน โดยกล่องลูกฟูกที่นิยมใช้จะมีทั้งหมด 4 ประเภทดังต่อไปนี้

  1. กล่องกระดาษลูกฟูกแบบ 2 ชั้น หรือ Single Face

เป็นประเภทที่รับบริษัทรับผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกนิยมใช้งานกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีราคาถูก ด้านในประกอบไปด้วยแผ่นเรียบ 1 แผ่น และแผ่นลอนลูกฟูก 1 แผ่น นำมาประกบเข้าด้วยกัน เหมาะกับการใช้งานกับสินค้าที่มีน้ำหนักเบา หรือ มีขนาดเล็ก  

  1. กล่องกระดาษลูกฟูกแบบ 3 ชั้น หรือ Single Wall

ด้านในประกอบไปด้วยแผ่นเรียบ 2 แผ่น และแผ่นลอนลูกฟูก 1 แผ่น มาประกบเข้าด้วยกัน โดยแผ่นลอนลูกฟูกจะอยู่ตรงกลางระหว่างกระดาษทั้งสองแผ่น รับน้ำหนักได้มากขึ้น เหมาะกับการใช้งานกับสินค้าที่มีขนาดกลาง

  1. กล่องกระดาษลูกฟูกแบบ 5 ชั้น หรือ Double Wall

ด้านในจะประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 3 แผ่น และ แผ่นลอนลูกฟูกอีก 2 แผ่น ประกบเข้าด้วยกัน โดยมีแผ่นลอนลูกฟูกอยู่กึ่งกลาง ซึ่งลอนทั้ง 2 แผ่นนี้จะสามารถปรับเปลี่ยนขนาดของลอนได้ตามต้องการ ทำให้ช่วยลดแรงกระแทกได้ดีมากยิ่งขึ้น

  1. กล่องกระดาษลูกฟูกแบบ 7 ชั้น หรือ Triple Wall

ด้านในจะประกอบไปด้วยกระดาษแผ่นเรียบ 4 แผ่น และแผ่นลอนลูกฟูกอีก 3 แผ่น ประกบเข้าหากัน โดยมีแผ่นลอนอยู่ตรงกลาง ตัวลอนสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามความต้องการ เป็นประเภทของกล่องลูกฟูกที่มีความหนามากที่สุด มีความแข็งแรงมาก เหมาะกับการบรรจุหรือขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก


ลอนของกล่องลูกฟูกมีทั้งหมดกี่แบบ?

 รู้หรือไม่? ลอนของกล่องลูกฟูกนั้นมีหลายรูปแบบ หลายประเภท ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดความหนาและความแข็งแรงของกล่องลูกฟูกแต่ละชนิด โดยสามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมกับสินค้าที่ต้องการบรรจุ หรือสามารถสอบถามคำแนะนำเพิ่มเติมจากบริษัทรับทำกล่องลูกฟูกหรือรับผลิตกล่องลูกฟูกได้ โดยจะมีลอนที่นิยมใช้ทั้งหมด 4 แบบดังนี้

  • ลอนประเภท E (ความสูงประมาณ 1.5 มิลลิเมตร)

เป็นลอนลูกฟูกที่มีขนาดเล็ก มีจำนวนลอนประมาณ 290-320 ลอนต่อ 1 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ไม่มากนัก ประมาณ 1-3 กิโลกรัม เหมาะกับการผลิตเป็นกล่องไดคัทมากกว่ากล่องสำหรับขนส่งสินค้า

  • ลอนประเภท B (ความสูงประมาณ 2.5 มิลลิเมตร)

เป็นลอนลูกฟูกที่มีขนาดปานกลาง มีจำนวนลอนประมาณ 150-185 ลอนต่อ 1 เมตร รับน้ำหนักได้ประมาณ 3-5 กิโลกรัม สามารถใช้บริการจากโรงพิมพ์กล่องกระดาษลูกฟูกในการออกแบบสไตล์ต่าง ๆ ให้เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ขนส่งสินค้าทางไปรษณีย์ได้ตามความต้องการ 

  • ลอนประเภท C (ความสูงประมาณ 3.6 มิลลิเมตร)

เป็นลอนลูกฟูกที่มีขนาดใหญ่ขึ้นมา มีจำนวนลอนประมาณ 120-145 ลอนต่อ 1 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 3- 7 กิโลกรัม มีความแข็งแรง คงทน เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมากขึ้น เช่น เฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น

  • ลอนประเภท BC (ความสูงประมาณ 6.5 มิลลิเมตร)

เป็นลอนลูกฟูกที่มีขนาดใหญ่ ด้านในประกอบไปด้วยแผ่นลอนลูกฟูกจำนวน 2 แผ่น และกระดาษเรียบ 3 แผ่น ประกบเข้าด้วยกัน มีจำนวนลอนประมาณ 390-320 ลอนต่อ 1 เมตร สามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 7-10 กิโลกรัม มีความหนาและแข็งแรง สามารถเรียงซ้อนกันได้เป็นจำนวนมาก เหมาะกับการขนส่งสินค้าที่มีน้ำหนักมาก ช่วยป้องกันแรงกระแทกได้เป็นอย่างดี 



ประโยชน์ของกล่องลูกฟูกมีอะไรบ้าง?

กล่องลูกฟูกถือว่าเป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่ช่วยอำนวยความสะดวกในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะช่วยบรรจุสินค้าประเภทต่าง ๆ ให้มีความสวยงาม หรือ ช่วยป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดจากแรงกระแทก ทำให้กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจรายเล็ก รายกลางและรายใหญ่เริ่มสั่งผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกกันมากขึ้น ซึ่งกล่องลูกฟูกจะมีประโยชน์ต่าง ๆ มากมายดังนี้

  • มีความแข็งแรง ทนทานสูง ช่วยป้องกันแรงกระแทกที่เกิดจากการขนส่ง ช่วยป้องกันสินค้าเสียหายได้

  • มีน้ำหนักเบา สามารถวางเรียงซ้อนกันได้ง่าย และสะดวกต่อการเคลื่อนย้าย หรือ ขนส่ง 

  • สามารถออกแบบดีไซน์และตกแต่งได้ตามความเหมาะสมของแบรนด์ได้ เช่น เพิ่มโลโก้แบรนด์ หรือ ร้านค้า 

  • มีราคาถูกกว่าบรรจุภัณฑ์ชนิดอื่น ๆ เช่น พลาสติก, ไม้ หรือ ฟอยล์ เป็นต้น

  • เป็นวัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สามารถผ่านกระบวนการรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ได้หลายครั้ง   


กล่องลูกฟูกที่เหมาะกับการใช้งานประเภทต่าง ๆ 

กล่องลูกฟูกมีหลากหลายประเภทและรูปทรงให้สามารถเลือกใช้งานได้ตามความเหมาะสมกับสินค้าต่าง ๆ ที่เราต้องการบรรจุ โดยควรพิจารณาถึงน้ำหนักและปริมาณของสินค้าก่อนเป็นอันดับแรกก่อนที่จะทำการเลือกกล่องลูกฟูกรูปแบบต่าง ๆ โดยจะมีรูปแบบดังต่อไปนี้

  1. กล่องกระดาษฝาชน หรือ RSC นิยมใช้กันมากที่สุด 

เป็นกล่อง 4 เหลี่ยม สามารถเปิดใส่ของด้านบนและด้านล่างได้ มีฝาเปิดปิดที่เท่ากัน มีความแข็งแรง เหมาะกับการบรรจุสินค้าประเภทเครื่องใช้อุปโภคบริโภค, เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือ ของตกแต่งต่าง ๆ

  1. กล่องกระดาษฝาเกย หรือ OSC แข็งแรง ป้องกันสินค้าชำรุดจากการขนส่งได้

เป็นกล่อง 4 เหลี่ยม เมื่อทำการเปิดฝาจะพบว่าฝาบนและฝาล่างจะเกยกัน เหมาะกับการบรรจุสินค้าทั่วไป ประเภทเฟอร์นิเจอร์ หรือ สินค้าที่มีน้ำหนักมาก

  1. กล่องกระดาษฝาครอบ หรือ FTD เมื่อบรรจุสินค้าแล้วจะสามารถมองเห็นตัวสินค้าได้ชัดเจน

เป็นกล่อง 4 เหลี่ยม โดยมีลักษณะเป็นกล่อง 2 ใบครอบกันอย่างแนบสนิท นิยมนำมาใช้บรรจุสินค้าประเภทกล่องเสื้อผ้า, กล่องใส่ดอกไม้ หรือ กล่องใส่รูปภาพ

  1. กล่องกระดาษไดคัท หรือ Die-Cut เป็นกล่องที่ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ผลิต

เป็นกล่องที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการตกแต่งรูปทรงของกล่องให้มีความสวยงาม แปลกใหม่ และมีความแข็งแรง ซึ่งสามารถเลือกออกแบบรูปทรงของกล่องตามไอเดียของผู้ผลิตเอง หรือ อาจใช้บริการรับผลิตกล่องลูกฟูกพิมพ์ลายก็ได้เช่นกัน


  1. กล่องกระดาษบรรจุผลไม้ หรือ FTHS เอาไว้เพื่อบรรจุผลไม้โดยเฉพาะ

เป็นกล่อง 4 เหลี่ยม สามารถเปิดฝาได้ทั้งด้านบนและด้านล่าง โดยจะสามารถแยกเปิดกล่องที่วางซ้อนกันอยู่ได้ ประกอบไปด้วย 2 ชั้น คือกล่องแบบ FTD และ RSC   

  1. กล่องหูหิ้ว หรือ Carrying Paper Box มีน้ำหนักเบาค่อนข้างเบา

เป็นกล่องบรรจุภัณฑ์ที่มักทำมาจากกระดาษลูกฟูกและกระดาษคราฟท์ มีลักษณะเป็นฝาสอดมือจับเพื่อให้สามารถทำการหิ้วหรือถือได้อย่างสะดวก มีรูปทรงให้เลือกมากมาย ทั้งแบบสี่เหลี่ยมจัตุรัสและแบบมีหน้าต่าง รวมถึงสามารถใช้บริการรับผลิตกล่องลูกฟูกเพื่อออกแบบโลโก้แบรนด์ของคุณลงไปในบรรจุภัณฑ์ ซึ่งจะสามารถช่วยเพิ่มยอดขายทางธุรกิจได้อีกด้วย


ทำไมต้องใช้บริการรับผลิตกล่องลูกฟูกกับ Loco Pack?

Loco Pack เป็นบริษัทรับผลิตกล่องลูกฟูก รับผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก รับผลิตกล่องลูกฟูกพิมพ์ลายทุกชนิด ทุกรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะต้องการแพคเกจจิ้งสำหรับบรรจุอาหาร เครื่องสำอาง ครีม ผลไม้ เสื้อผ้า หรือสินค้าขนาดเล็กและขนาดใหญ่ กล่องลูกฟูกเหมาะสำหรับแบรนด์หรือผู้ที่ต้องการผลิตกล่องใส่สินค้าเป็นของตัวเอง ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกทำการผลิตบรรจุภัณฑ์ได้ตามความเหมาะสมกับสินค้าแต่ละชนิด แต่ละขนาด ตามที่ลูกค้าต้องการได้ 

  1. เราให้บริการรับทำกล่องลูกฟูก และสั่งผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกแบบครบวงจร

Loco Pack พร้อมให้บริการครบทุกเรื่องเกี่ยวกับกล่องลูกฟูก เราดูแลตั้งแต่การออกแบบไปจนถึงขั้นตอนการผลิต รับผลิตกล่อง และทำกล่องบรรจุภัณฑ์ตามขนาด เพื่อรองรับสินค้าสำหรับใส่กล่องลูกฟูกแทบทุกประเภท นอกจากนี้จำนวนที่เริ่มต้นผลิต ขั้นต่ำเพียงแค่ 100 กล่องเท่านั้น คุณจึงสามารถเลือกขนาดและสไตล์ที่ต้องการได้เลย ครบจบในที่เดียว

  1. ลูกค้าสามารถเลือกออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ได้ตามความต้องการ

ลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าจะรับ Template จากทาง Loco Pack ไปออกแบบเองตามความต้องการของลูกค้า, ออกแบบออนไลน์บนเว็บไซต์ Loco Pack และหากลูกค้าท่านใดที่ไม่ได้มีไอเดียหรือแบบที่คิดจะทำมาก่อน ก็สามารถให้ Loco Pack ช่วยออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้ได้เช่นกัน 

  1. สะดวก ระยะเวลาในการผลิตสั้น ทำให้ได้รับสินค้าภายในเวลาอันรวดเร็ว

ทาง Loco Pack ใช้ระยะเวลาในการผลิตแพคเกจจิ้งตามคำสั่งซื้อเพียง 5 วัน หลังยืนยันแบบเพื่อการผลิต 

  1. เราใช้ zero waste packaging เพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ที่กระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

เราเน้นการใช้งานแพคเกจจิ้งที่สามารถเติมเต็มสินค้าได้หลายครั้ง ซึ่งจะสามารถช่วยลดปัญหาปริมาณขยะจากการทิ้งบรรจุภัณฑ์ที่ใช้เพียงครั้งเดียว และสร้างความสะดวกในการส่งเสริมการใช้งานซ้ำ ๆ ได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะกล่องลูกฟูกที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเราจะเน้นการผลิตบรรจุภัณฑ์ที่กระทบกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุดอีกด้วย


  1. เรามีช่องทางการติดต่อที่หลากหลายให้คุณเลือก

โดยคุณจะสามารถติดต่อศูนย์บริการลูกค้าของเราผ่านทางช่องทางต่าง ๆ ได้ดังต่อไปนี้

โทร: 089-967-6235

E-mail: support@locopack.com

Facebook: locopack.co

LINE: @locopack

  1. สามารถรับคำปรึกษาด้านบรรจุภัณฑ์กับเราได้ 

คุณสามารถรับชมตัวอย่างงาน Digital Print ของเราก่อนได้ ให้คุณได้มั่นใจในคุณภาพสินค้าของเราก่อนทำการผลิตได้ โดยจะมีทีมงานผู้เชี่ยวชาญคอยให้คำปรึกษาตั้งแต่การส่งรูปสินค้ามา ส่งสินค้าจริงมาให้วัดขนาด ทำแบบกล่อง ออกแบบกราฟิก และแนะนำวัสดุที่จะใช้ทำแพคเกจจิ้ง จากนั้นจึงสั่งพิมพ์สินค้าจากโรงพิมพ์กล่องกระดาษลูกฟูกของเรา ให้คุณได้มั่นใจว่าจะได้รับบรรจุภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด 


Loco Pack เราเป็นบริษัทสั่งทําแพคเกจจิ้งกล่อง, รับผลิตกล่องลูกฟูก, รับผลิตกล่องกระดาษลูกฟูก, รับผลิตกล่องลูกฟูกพิมพ์ลาย และรับทำกล่องลูกฟูก ในราคาสุดประหยัด ด้วยจำนวนสั่งขั้นต่ำเพียง 100 กล่อง พร้อมบริการออกแบบลวดลายบนบรรจุภัณฑ์ หรือ สามารถใช้ Template ของเราในการออกแบบได้ตามความต้องการ ช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจและกระตุ้นยอดขายสินค้าด้วยบรรจุภัณฑ์ หรือ แพคเกจจิ้งที่มีความสวยงาม โดดเด่น มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง Loco Pack พร้อมให้คำปรึกษาและคำแนะนำโดยนักออกแบบมืออาชีพ เราใส่ใจทุกขั้นตอนการผลิตบรรจุภัณฑ์แบบ One Stop Service พร้อมทั้งมีโรงพิมพ์กล่องกระดาษลูกฟูก ซองใส่ขนม และบรรจุภัภัณฑ์แบบอื่นๆ อีกมากมายเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าในด้านบรรจุภัณฑ์ ผู้ประกอบการทุกระดับไม่ว่าจะเล็กหรือเพิ่งเริ่มต้นก็สามารถเข้าถึงการสร้างความเป็นเอกลักษณ์ สื่อสารความโดดเด่นและความแตกต่างของแบรนด์ผ่านแพคเกจจิ้งได้ สั่งผลิตกล่องกระดาษลูกฟูกที่ Loco Pack ได้แล้ววันนี้ 

สนใจแพคเกจกจิ้งแบบนี้บ้าง

เริ่มเลย
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink

อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง
3 คำถามต้องตอบได้ ก่อนเริ่มดีไซน์แพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
คือเรื่องง่ายที่ใครก็รู้ แต่คำถามที่ว่า “จะออกแบบแพคเกจจิ้งแบบไหนให้ออกมาดี?” นี่สิ คือเรื่องยาก ที่คุณต้องหาคำตอบ ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากดีไซน์แพคเกจจิ้งดีๆเพื่อสินค้าคุณ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คุณมาถูกทางแล้วครับ สำหรับปัญหาข้อนี้ LocoPack มีทางออกให้กับคุณ เพียงลองตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้ให้ได้ เพราะถ้าตอบได้แล้วก็จะสามารถทราบได้ในทันที ว่าแนวทางเพื่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณควรเป็นอย่างไร 1. สินค้าของคุณคืออะไร?ก่อนอื่นเพื่อกำหนดลักษณะโดยรวมของแพคเกจจิ้ง ลองพิจารณากันก่อนครับ ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทไหน ทำจากอะไร ขนาดเท่าไร ความคงทนเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งทั้งสิ้น ในขณะที่สินค้าเปราะบางแตกง่าย ต้องการบรรจุภัณฑ์มั่นคงแข็งแรง รองรับการกระแทกขณะขนส่ง สินค้ารูปทรงแปลกตา อาจต้องการบรรจุภัณฑ์ออกแบบพิเศษที่พิถีพิถันมากกว่าการเลือกใช้กล่องรูปทรงธรรมดา 2. ใครคือผู้ซื้อสินค้า?ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ ใครคือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคุณ? เพราะกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ย่อมถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจจิ้งที่แตกต่างกัน ในขณะที่แพคเกจจิ้งสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่หรือสูงวัย ควรเป็นการดีไซน์แบบง่าย และมีตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นข้อความได้ชัดเจน การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดูเปรี้ยวเท่หรูหราก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามีฐานะที่ชอบความโก้หรูดูดี ดังนั้นการทราบก่อนว่าผู้ซื้อสินค้า คือกลุ่มบุคคลประเภทไหน เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น3. สินค้าจะถูกจำหน่ายอย่างไร ?ลองพิจารณาสักนิด สินค้าของคุณนั้นถูกจำหน่าย ซื้อขายในช่องทางไหน เป็นการตั้งสินค้าหน้าร้าน ซื้อมาจำหน่ายไปแบบปกติ หรือผ่านการสั่งซื้อออนไลน์? เมื่อสถานที่ขายสินค้าต่าง กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต่างกัน หากเป็นการวางสินค้าบนชั้นวาง มีคู่แข่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน สินค้าของคุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดสายตา แต่ถ้าสินค้าของคุณเน้นช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ คุณก็ต้องมองหาการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ให้ความสะดวก และเหมาะสมกับการขนส่งทางไกลมากกว่าภาพลักษณ์แพคเกจจิ้งที่ต้องโดดเด่นกว่าใครCredit: 99designs
“Ultra Violet” โทนสีปี 2018 จาก Pantone
ออกแบบ 11 May 2020
พอถึงสิ้นปีทีไร แวดวงการออกแบบ รวมทั้งวงการแฟชั่น ก็ได้เวลาลุ้นตัวโก่งกันทุกที ว่าปีนี้ บริษัทสีเจ้าแม่ยักษ์ใหญ่อย่าง Pantone จะเลือกสีใด เป็นโทนสีแห่งปีของปีถัดไป สำหรับปีนี้เองก็เช่นกันครับ แต่ทว่า ตอนนี้เราไม่ต้องลุ้นให้ตื่นเต้นกันอีกต่อไปแล้ว เพราะ Pantone ประกาศออกมาให้โลกรับรู้แล้วว่า สีม่วง Ultra Violet รหัส 18–383 คือสีแห่งปี 2018! ซึ่งเมื่อ Pantone ประกาศผลมาปุ๊บ LocoPack ก็ไม่อยากรอช้า ขอนำเสนอข้อมูลดีๆ เกี่ยวกับเจ้าสีม่วงสุดเย้ายวนผ่านบทความนี้กันเลย ULTRA VIOLET สำหรับกราฟฟิกและแพคเกจจิ้งดีไซน์แฝงไปด้วยความซับซ้อน ดูลึกลับ แต่ให้ความรู้สึกกลมกลืน สีม่วง Ultra Violet ได้ถูกคัดเลือกให้เป็นโทนสีแห่งปีสำหรับแวดวงการออกแบบกราฟฟิกและแพคเกจจิ้ง ซึ่งผลการคัดเลือกครั้งนี้ ถือว่าสอดคล้องกับทิศทางของผลงานดีไซน์เนอร์จากทั่วโลกเป็นอย่างดี ดั่งที่ปรากฏให้เห็นในเทรนด์การออกแบบแพคเกจจิ้ง สินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเสริมความงาม รวมไปถึงผลิตภัณฑ์จากแบรนด์หรู ซึ่งนับวันจะยิ่งเน้นความซับซ้อนและมิติของการออกแบบที่มากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ULTRA VIOLET และวงการแฟชั่นด้วยคุณสมบัติที่มีความเป็นกลางระหว่างเพศหญิงและเพศชาย ตัวเลือกอย่างสีม่วง Ultra Violet ที่ผสมผสานกันระหว่างพื้นสีของสีแดง และสีฟ้า ได้ถูกหยิบยกเป็นเครื่องมือเพื่อสร้างความรู้สึกเชื่อมโยงระหว่างผู้ออกแบบ ผู้ผลิตและผู้บริโภคทุกๆเพศ นอกจากนี้ความเข้ากันได้ดีกับสี และวัสดุที่หลากหลายอย่างไม่จำกัด อาทิ การใช้สีทองกับสีม่วงเพื่อให้บรรยากาศหรูหรา การใช้สีเขียวเทากับสีม่วงก็ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ นอกจากนี้การจับคู่ผ้าหรูอย่างกำมะหยี่กับสีม่วงสำหรับชุดราตรีงานกลางคืน ก็ดูเข้ากันได้ดีไม่แพ้การเลือกใช้สีม่วงสำหรับสินค้านักกีฬา หรือรองเท้าผ้าใบ ULTRA VIOLET ในแวดวงความงาม ถือเป็นมนต์ขลังของสีม่วง Ultra Violet ที่สามารถใช้เสริม แต่งประกายเพื่อเพิ่มความงามน่าหลงใหลให้กับทุกๆคน ด้วยความนุ่มลึกแบบเป็นธรรมชาติที่เข้ากันได้ดีกับความลงตัวของการผสมสี ไล่สี สีม่วงได้ถูกคัดเลือกเพื่อเป็นตัวแทนของความงามในวงการแฟชั่นผ่านหลายกรรมวิธีการใช้ ไม่ว่าการใช้สีม่วงเดี่ยวๆ เพื่อทาเป็นลิปสติก หรือใช้เป็นสีเล็บสามารถที่สร้างเอกลักษณ์มั่นใจปนเท่ห์ ให้กับผู้เลือกใช้ หรือการใช้สีม่วงผสมกับสีเมทาลิกเพื่อใช้กับเปลือกตาให้เจ้าของดวงตาดูลึกลับ เป็นปริศนาดั่งสีของจักรวาลก็นับเป็นอีกเคล็ดลับวิธีสร้างความน่าดึงดูดที่น่าสนใจ นอกจากนี้สีม่วงยังได้ถูกเลือกใช้เป็นเฉดสีสำหรับการย้อมเส้นผมที่นับวันจะได้รับความนิยมมากขึ้นในมุมมองความงามแบบ Street StyleULTRA VIOLET เพื่อการแต่งบ้าน หากกำลังมองหาหนทางเพื่อเปลี่ยนห้องแบบเดิมๆให้เป็น ห้องที่บ่งบอกความเป็นตัวเองได้มากขึ้น การเลือกใช้สีม่วง Ultra Violet นับเป็นวิธีที่น่าสนใจที่ Pantone เสนอ ด้วยคุณสมบัติที่สามารถเข้ากันได้ดีกับสีต่างๆ เพื่อสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัว การจับคู่สีม่วงกับสีสันโทนสดใสหรือ สีสว่างสามารถช่วยฉุดความโดดเด่นของเครื่องแต่งบ้านชิ้นอื่นๆ นอกจากนี้สีม่วง ยังนับเป็นสีที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานในทุกๆห้องของบ้าน หรืออาคารได้ด้วยเช่นกัน Credit: Pantone
“ข้อมูลที่ต้องพร้อม” ก่อนเริ่มออกแบบแพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้ให้แนวทางการออกแบบแพคเกจจิ้ง ผ่าน 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องตอบได้ก่อนเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์กันไปแล้ว สำหรับบทความในวันนี้ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ที่อยากออกแบบแพคเกจจิ้งดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดไลค์ อัพยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้ได้ LocoPack ขอกระเถิบลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกสักหน่อยนะครับ โดยขอพูดต่อกันถึง “ข้อมูลที่คุณต้องมีพร้อม” เพื่อการสร้าง และผลิตแพคเกจจิ้งดีๆ พร้อมใช้งานที่จะออกมาตรงใจผู้ขาย และถูกใจผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพราะสินค้าและแพคเกจจิ้ง คือสื่อสำคัญเพื่อการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้าและผู้พบเห็น ดังนั้นการออกแบบแพคเกจจิ้งจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยก่อนการเริ่มออกแบบ คุณควรมีข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ดังต่อไปนี้ครบถ้วนกันเสียก่อน สีหลัก เฉดสีที่เลือกใช้: ชื่อสี โค้ดสี ฟ้อนต์ตัวอักษร: ให้ระบุการใช้ให้ชัดเจน อาทิ ตัวหนาสำหรับหัวข้อ ตัวเล็กบางสำหรับข้อมูลทั่วไป โลโก้ของแบรนด์: จัดเตรียมประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อการจัดพิมพ์ 2. ข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง แต่ละประเภทสินค้า แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลเพื่อการปริ้นท์บนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อสร้างแพคเกจจิ้งตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมากนะครับ ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องมีเพื่อระบุบนแพคเกจจิ้ง ก็ได้แก่ ข้อความ: เช่น ชื่อสินค้า คำขวัญ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับสินค้า รูปภาพ: ไม่ว่าจะภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ขอให้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มต้นการออกแบบ เครื่องหมายที่จำเป็น: อาทิ บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐ ข้อมูลอื่นๆ: อาทิ ข้อมูลตามกฎหมาย ที่อาจต้องเปลี่ยนแปลงภายหลัง หรือยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน (ซึ่งคุณไม่อาจจำเป็นต้องปริ้นท์ลงบนแพคเกจจิ้งโดยตรง แต่อย่าลืมเหลือเนื้อที่ สำหรับการเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนนี้ เช่นพื้นที่เพื่อแปะสติ๊กเกอร์ หรือปริ๊นท์ลงในภายหลังด้วยนะครับ) 3. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่ ขอให้รวบรวมแพคเกจจิ้งที่ชอบ เห็นทีไรถูกใจทุกทีไว้เลยนะครับ เลือกเก็บไว้หลายๆแบบ อาจใช้วิธีการถ่ายภาพ ครอปภาพมาไว้ก็ได้ นอกจากนี้ลองนึกถึงวัสดุสำหรับทำแพคเกจจิ้งของคุณด้วย เพราะข้อมูลของแบบแพคเกจจิ้งที่ชอบ จะสามารถนำมาประยุกต์รวมกัน หรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง 4. งบประมาณ งบประมาณการผลิต และต้นทุนของแพคเกจจิ้ง คืออีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ ทั้งนี้ต้นทุน หรือเรื่องเงินๆทองๆของการผลิตแพคเกจจิ้งที่ว่า จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน ต้นทุนต่อชิ้น ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อแพคเกจจิ้งหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่า งบประมาณที่ถูกกว่าใช่ว่าดีกว่าเสมอไป เพราะการใช้วัสดุคุณภาพดี การออกแบบมีคุณภาพ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าให้ดูโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างไรก็ตาม การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ให้มีภาพลักษณ์เตะตา น่าดึงดูด ที่คำนึงถึงความเหมาะสม และถูกใจทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถทำได้ในราคาประหยัด และต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิด ไอเดียและความเชี่ยวชาญในการออกแบบแพคเกจจิ้งนั่นเอง Credit: 99designs