How To เลือกใช้ซองใส่ขนมให้ปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค

แพกเกจจิ้งบรรจุภัณฑ์
19 March 2025
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink
How To เลือกใช้ซองใส่ขนมให้ปลอดภัยใส่ใจผู้บริโภค


สำหรับธุรกิจขนมหรืออาหารแห้ง การเลือกใช้ซองใส่ขนมที่มีการผลิตโดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค รวมถึงสามารถคงสภาพของอาหารให้ไม่เน่าเสีย คือสิ่งสำคัญที่ควรคำนึง

ซองใส่ขนม ความปลอดภัยที่ควรคำนึง

       บรรจุภัณฑ์อาหารมีความสำคัญมากกว่าที่คิด เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องสินค้าจากสิ่งสกปรก ความชื้น และอากาศที่อาจทำให้ขนมเสื่อมคุณภาพแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภคอีกด้วย ซองใส่ขนมที่ดีควรผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัยทางอาหาร ไม่มีสารเคมีตกค้าง และสามารถเก็บรักษาคุณภาพของขนมได้เป็นอย่างดีปัจจุบันมีการใช้ซองใส่ขนมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นซองพลาสติก ซองกระดาษ หรือซองที่มีฟอยล์เคลือบ ซึ่งแต่ละประเภทมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป การเลือกใช้ซองให้เหมาะสมกับขนมจึงเป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ หากเลือกผิดอาจส่งผลต่ออายุการเก็บรักษา รสชาติ และความปลอดภัยของสินค้าได้ นอกจากนี้การใช้ซองใส่ขนมที่ไม่ได้มาตรฐานอาจก่อให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพ เนื่องจากบรรจุภัณฑ์บางชนิดอาจมีสารอันตราย เช่น BPA (Bisphenol A) หรือสารปนเปื้อนที่สามารถละลายออกมาสู่ขนมเมื่อสัมผัสกับความร้อนหรือไขมัน ดังนั้นควรเลือกใช้ซองที่ผลิตจากวัสดุที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยต่ออาหาร (Food Grade) และสามารถรักษาคุณภาพของขนมได้อย่างดี

ประเภทของซองใส่ขนม ที่น่าสนใจในการนำไปใช้งาน

       1.ซองพลาสติกใส (PP, PET, PE, OPP)

       ซองพลาสติกใสเป็นที่นิยมอย่างมาก เนื่องจากสามารถโชว์สินค้าให้ลูกค้าเห็นได้ชัดเจน และช่วยให้ขนมดูน่ารับประทาน วัสดุพลาสติกที่ใช้ทำซองใส่อาหารมักเป็น PP (Polypropylene), PET (Polyethylene Terephthalate), PE (Polyethylene) และ OPP (Oriented Polypropylene) ซึ่งมีคุณสมบัติต่างกัน ดังนี้

       - PP - ทนความร้อนสูง เหมาะสำหรับขนมที่ต้องการอุ่นร้อนก่อนรับประทาน
       - PET - มีความใสและเหนียว ไม่ฉีกขาดง่าย นิยมใช้กับขนมที่ต้องการโชว์ความสวยงาม
       - PE - ยืดหยุ่นดี สามารถป้องกันความชื้นได้ดี
       - OPP - มีความใสเป็นพิเศษ มันวาว และกันความชื้นได้ดี เหมาะสำหรับขนมอบกรอบ

       2.ซองฟอยล์เคลือบ (Aluminum Foil Pouch)

       ซองฟอยล์เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับขนมที่ต้องการการป้องกันสูง เช่น ขนมที่ไวต่อแสงและอากาศ เช่น มันฝรั่งทอด คุกกี้ หรือช็อกโกแลต ซองฟอยล์สามารถป้องกันแสงแดด อากาศ และความชื้นได้ดี ทำให้ขนมมีอายุการเก็บรักษายาวนานขึ้น

       3.ซองกระดาษเคลือบพลาสติก

       ซองกระดาษเป็นอีกทางเลือกที่ดีสำหรับธุรกิจที่ต้องการลดการใช้พลาสติกและสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซองชนิดนี้มักเคลือบด้วยพลาสติกบาง ๆ เพื่อช่วยกันความชื้นและรักษาคุณภาพขนม เหมาะสำหรับขนมปัง เบเกอรี่ หรือของว่างที่ต้องการลุคคลาสสิกและรักษ์โลก

       4.ซองซิปล็อคใส่ขนม

       ซองซิปใส่ขนม เป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มขนมอบกรอบ ถั่ว ขนมขบเคี้ยว และอาหารแห้ง เนื่องจากสามารถเปิด-ปิดได้ง่าย และช่วยรักษาความกรอบของขนมได้ดีกว่าซองแบบปกติ นอกจากนี้ ยังสะดวกต่อการพกพาและใช้งานซ้ำ

วิธีการเลือกซองใส่ขนม ให้เหมาะสมกับประเภทของขนม

       การเลือกซองใส่ขนมให้เหมาะสมกับประเภทของขนมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพของสินค้าและยืดอายุการเก็บรักษา นอกจากจะช่วยปกป้องขนมจากปัจจัยภายนอก เช่น ความชื้น อากาศ และแสงแดดแล้ว ยังมีผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์และความสะดวกในการใช้งานของลูกค้า การเลือกซองที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ดียิ่งขึ้น

       - เลือกซองตามอายุการเก็บรักษาของขนม

       หากขนมของคุณเป็นประเภทที่ต้องเก็บไว้นาน เช่น ขนมอบกรอบ มันฝรั่งทอด ถั่ว ขนมปังแห้ง หรือขนมที่มีความไวต่อความชื้น ควรเลือกซองฟอยล์เคลือบ หรือ ซองซิปใส่ขนมที่มีคุณสมบัติป้องกันอากาศและความชื้นได้ดี ซองเหล่านี้ช่วยรักษาความกรอบของขนมได้นานขึ้น และป้องกันการเหม็นหืนจากอากาศภายนอก ในทางกลับกัน ขนมที่มีอายุการเก็บรักษาสั้นและต้องบริโภคภายในระยะเวลาไม่นาน เช่น ขนมปัง เบเกอรี่ หรือขนมที่มีส่วนประกอบของครีมหรือไส้ ควรใช้ซองกระดาษเคลือบพลาสติก หรือ ซองพลาสติกใสแบบบาง ซึ่งช่วยให้ลูกค้าสามารถมองเห็นสินค้าได้ชัดเจน และยังช่วยลดต้นทุนด้านบรรจุภัณฑ์

       - เลือกซองที่สะดวกต่อการใช้งาน

       ความสะดวกของผู้บริโภคเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากขนมของคุณต้องการให้ลูกค้าสามารถเปิด-ปิดได้ง่ายและเก็บไว้รับประทานหลายครั้ง ควรเลือกซองซิปใส่ขนม ซึ่งมีระบบปิดล็อคที่ช่วยให้ขนมไม่สัมผัสกับอากาศมากเกินไป ช่วยรักษาความสดใหม่และสะดวกต่อการใช้งาน สำหรับขนมที่ขายในรูปแบบขนาดพกพาหรือขนมที่ต้องการให้ลูกค้าฉีกซองแล้วรับประทานได้เลย ควรใช้ซองแบบฉีกง่าย (Easy Tear Pouch) ที่มีรอยปรุเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถฉีกซองได้โดยไม่ต้องใช้กรรไกรหรืออุปกรณ์ช่วย

       - เลือกซองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

       ในยุคที่ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ธุรกิจที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติจะได้รับความสนใจมากขึ้น หากคุณต้องการสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ควรเลือกใช้ซองกระดาษเคลือบ หรือ ซองที่ผลิตจากพลาสติกชีวภาพ (Biodegradable Plastic) ที่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ ซองกระดาษเคลือบเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับขนมเบเกอรี่ ขนมปัง หรือขนมที่ไม่ต้องการการปิดผนึกแน่นหนา ในขณะที่พลาสติกชีวภาพเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับขนมขบเคี้ยวที่ต้องการการป้องกันอากาศและความชื้น

       - พิจารณาดีไซน์ของซอง

       การออกแบบซองบรรจุภัณฑ์เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่ช่วยดึงดูดลูกค้าและทำให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นขึ้นมา ซองใสใส่ขนม เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับขนมที่ต้องการโชว์ความน่ารับประทาน เช่น คุกกี้ ขนมปัง ขนมไทย หรือขนมที่มีสีสันสดใส เพราะสามารถกระตุ้นความสนใจของลูกค้าได้มากขึ้น ในกรณีที่ขนมของคุณไวต่อแสง เช่น ช็อกโกแลต ขนมที่มีส่วนผสมของนม หรือขนมที่มีน้ำมันสูง ควรเลือกซองทึบหรือซองฟอยล์ ที่สามารถป้องกันแสงแดดและช่วยรักษาคุณภาพของขนมได้นานขึ้น นอกจากนี้การออกแบบซองให้เข้ากับเอกลักษณ์ของแบรนด์ก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรเลือกซองที่สามารถพิมพ์ลวดลายหรือโลโก้ได้ เพื่อสร้างความเป็นเอกลักษณ์และช่วยให้แบรนด์เป็นที่จดจำง่ายขึ้น รวมถึงการเลือกใช้หมึกพิมพ์ที่ปลอดภัยต่ออาหาร (Food-Grade Ink) เพื่อคำนึงถึงเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภค

การเลือกซองใส่ขนมคุณภาพดี มีบริการจัดส่งถึงที่ ไม่ต้องรอนาน

       การเลือกซองใส่ขนมที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยรักษาคุณภาพของขนม เพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า และสร้างความประทับใจให้ลูกค้า ซองใสใส่ขนมสามารถโชว์ความน่ากินของสินค้าได้ดี ส่วนซองซิปใส่ขนมเหมาะกับขนมที่ต้องการเปิด-ปิดหลายครั้ง หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่ต้องการสั่งผลิตซองใส่ขนมคุณภาพดี ควรเลือกโรงงานที่มีมาตรฐานในการผลิต มีวัสดุที่ได้รับการรับรองว่าปลอดภัยต่ออาหาร (Food Grade) และมีบริการจัดส่งที่รวดเร็ว มีบริการจัดส่งถึงที่ ไม่ต้องรอนาน นอกจากนี้ควรเลือกโรงงานที่สามารถออกแบบซองให้ตรงกับความต้องการของแบรนด์ เพื่อให้ได้ซองที่มีเอกลักษณ์ โดดเด่น สะท้อนตัวตนของสินค้า และช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ขอแนะนำ Loco Pack บริษัทรับผลิตแพคเกจจิ้งและซองใส่ขนม มีขั้นต่ำการสั่งซื้อเพียงแค่ 100 ชิ้น ก็สามารถสั่งทำแพคเกจจิ้งได้พร้อมกับการพิมพ์ลายคุณภาพดี เพื่อส่งมอบสิ่งดี ๆ สู่ธุรกิจของคุณ


สนใจแพคเกจกจิ้งแบบนี้บ้าง

เริ่มเลย
แบ่งปันข้อความนี้
facebook
copylink

อ่านต่อ

บทความที่เกี่ยวข้อง
3 คำถามต้องตอบได้ ก่อนเริ่มดีไซน์แพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
คือเรื่องง่ายที่ใครก็รู้ แต่คำถามที่ว่า “จะออกแบบแพคเกจจิ้งแบบไหนให้ออกมาดี?” นี่สิ คือเรื่องยาก ที่คุณต้องหาคำตอบ ดังนั้นสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากดีไซน์แพคเกจจิ้งดีๆเพื่อสินค้าคุณ แต่ไม่รู้จะเริ่มอย่างไร คุณมาถูกทางแล้วครับ สำหรับปัญหาข้อนี้ LocoPack มีทางออกให้กับคุณ เพียงลองตอบคำถาม 3 ข้อต่อไปนี้ให้ได้ เพราะถ้าตอบได้แล้วก็จะสามารถทราบได้ในทันที ว่าแนวทางเพื่อการออกแบบแพคเกจจิ้งสำหรับสินค้าของคุณควรเป็นอย่างไร 1. สินค้าของคุณคืออะไร?ก่อนอื่นเพื่อกำหนดลักษณะโดยรวมของแพคเกจจิ้ง ลองพิจารณากันก่อนครับ ว่าสินค้าของคุณเป็นสินค้าประเภทไหน ทำจากอะไร ขนาดเท่าไร ความคงทนเป็นอย่างไร เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนมีผลต่อการออกแบบแพคเกจจิ้งทั้งสิ้น ในขณะที่สินค้าเปราะบางแตกง่าย ต้องการบรรจุภัณฑ์มั่นคงแข็งแรง รองรับการกระแทกขณะขนส่ง สินค้ารูปทรงแปลกตา อาจต้องการบรรจุภัณฑ์ออกแบบพิเศษที่พิถีพิถันมากกว่าการเลือกใช้กล่องรูปทรงธรรมดา 2. ใครคือผู้ซื้อสินค้า?ผู้ชาย ผู้หญิง เด็กเล็ก หรือผู้ใหญ่ ใครคือกลุ่มเป้าหมายของสินค้าคุณ? เพราะกลุ่มคนแต่ละกลุ่ม ย่อมถูกดึงดูดด้วยรูปลักษณ์ของแพคเกจจิ้งที่แตกต่างกัน ในขณะที่แพคเกจจิ้งสำหรับกลุ่มลูกค้าผู้ใหญ่หรือสูงวัย ควรเป็นการดีไซน์แบบง่าย และมีตัวอักษรขนาดใหญ่เพื่อให้เห็นข้อความได้ชัดเจน การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดูเปรี้ยวเท่หรูหราก็สามารถดึงดูดกลุ่มลูกค้ามีฐานะที่ชอบความโก้หรูดูดี ดังนั้นการทราบก่อนว่าผู้ซื้อสินค้า คือกลุ่มบุคคลประเภทไหน เราก็จะสามารถกำหนดทิศทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ได้ง่ายขึ้น3. สินค้าจะถูกจำหน่ายอย่างไร ?ลองพิจารณาสักนิด สินค้าของคุณนั้นถูกจำหน่าย ซื้อขายในช่องทางไหน เป็นการตั้งสินค้าหน้าร้าน ซื้อมาจำหน่ายไปแบบปกติ หรือผ่านการสั่งซื้อออนไลน์? เมื่อสถานที่ขายสินค้าต่าง กลยุทธ์การออกแบบผลิตภัณฑ์ก็ต่างกัน หากเป็นการวางสินค้าบนชั้นวาง มีคู่แข่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกัน สินค้าของคุณต้องการบรรจุภัณฑ์ที่โดดเด่นและแตกต่าง เพื่อดึงดูดสายตา แต่ถ้าสินค้าของคุณเน้นช่องทางการขายบนโลกออนไลน์ คุณก็ต้องมองหาการออกแบบแพคเกจจิ้งที่ให้ความสะดวก และเหมาะสมกับการขนส่งทางไกลมากกว่าภาพลักษณ์แพคเกจจิ้งที่ต้องโดดเด่นกว่าใครCredit: 99designs
“ข้อมูลที่ต้องพร้อม” ก่อนเริ่มออกแบบแพคเกจจิ้ง!
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
ต่อจากคราวก่อน ที่เราได้ให้แนวทางการออกแบบแพคเกจจิ้ง ผ่าน 3 คำถามสำคัญ ที่ต้องตอบได้ก่อนเริ่มออกแบบบรรจุภัณฑ์กันไปแล้ว สำหรับบทความในวันนี้ เพื่อเป็นไกด์ไลน์ให้กับเจ้าของแบรนด์ที่อยากออกแบบแพคเกจจิ้งดีๆ ที่จะช่วยเพิ่มยอดไลค์ อัพยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้ได้ LocoPack ขอกระเถิบลงรายละเอียดเพิ่มเติมกันอีกสักหน่อยนะครับ โดยขอพูดต่อกันถึง “ข้อมูลที่คุณต้องมีพร้อม” เพื่อการสร้าง และผลิตแพคเกจจิ้งดีๆ พร้อมใช้งานที่จะออกมาตรงใจผู้ขาย และถูกใจผู้ซื้อได้อย่างแน่นอน 1. ข้อมูลเกี่ยวกับแบรนด์เพราะสินค้าและแพคเกจจิ้ง คือสื่อสำคัญเพื่อการโปรโมทแบรนด์ของคุณสู่สายตาของลูกค้าและผู้พบเห็น ดังนั้นการออกแบบแพคเกจจิ้งจึงต้องใส่ใจในรายละเอียดอัตลักษณ์ของแบรนด์ โดยก่อนการเริ่มออกแบบ คุณควรมีข้อมูลเกี่ยวกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ดังต่อไปนี้ครบถ้วนกันเสียก่อน สีหลัก เฉดสีที่เลือกใช้: ชื่อสี โค้ดสี ฟ้อนต์ตัวอักษร: ให้ระบุการใช้ให้ชัดเจน อาทิ ตัวหนาสำหรับหัวข้อ ตัวเล็กบางสำหรับข้อมูลทั่วไป โลโก้ของแบรนด์: จัดเตรียมประเภทไฟล์ที่เหมาะสม เพื่อการจัดพิมพ์ 2. ข้อมูลที่ต้องมีบนแพคเกจจิ้ง แต่ละประเภทสินค้า แต่ละแบรนด์ ย่อมมีข้อมูลเพื่อการปริ้นท์บนแพคเกจจิ้งแตกต่างกันไป ดังนั้นเพื่อสร้างแพคเกจจิ้งตรงใจ สามารถใช้งานได้จริง การมีข้อมูลในส่วนนี้ไว้ครบถ้วนก่อนจึงสำคัญมากนะครับ ทั้งนี้ข้อมูลที่ต้องมีเพื่อระบุบนแพคเกจจิ้ง ก็ได้แก่ ข้อความ: เช่น ชื่อสินค้า คำขวัญ คำอธิบายสั้นๆเกี่ยวกับสินค้า รูปภาพ: ไม่ว่าจะภาพพรีเซนเตอร์ ภาพส่วนประกอบ หรือภาพสินค้า ขอให้จัดเตรียมไว้ให้พร้อมก่อนเริ่มต้นการออกแบบ เครื่องหมายที่จำเป็น: อาทิ บาร์โค้ด เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายรับรองจากภาครัฐ ข้อมูลอื่นๆ: อาทิ ข้อมูลตามกฎหมาย ที่อาจต้องเปลี่ยนแปลงภายหลัง หรือยังเป็นข้อมูลที่ไม่แน่นอน (ซึ่งคุณไม่อาจจำเป็นต้องปริ้นท์ลงบนแพคเกจจิ้งโดยตรง แต่อย่าลืมเหลือเนื้อที่ สำหรับการเพิ่มเติมเนื้อหาในส่วนนี้ เช่นพื้นที่เพื่อแปะสติ๊กเกอร์ หรือปริ๊นท์ลงในภายหลังด้วยนะครับ) 3. แบบที่ชอบ สไตล์ที่ใช่ ขอให้รวบรวมแพคเกจจิ้งที่ชอบ เห็นทีไรถูกใจทุกทีไว้เลยนะครับ เลือกเก็บไว้หลายๆแบบ อาจใช้วิธีการถ่ายภาพ ครอปภาพมาไว้ก็ได้ นอกจากนี้ลองนึกถึงวัสดุสำหรับทำแพคเกจจิ้งของคุณด้วย เพราะข้อมูลของแบบแพคเกจจิ้งที่ชอบ จะสามารถนำมาประยุกต์รวมกัน หรือให้ไอเดียแก่ผู้ออกแบบ เพื่อสร้างเป็นแพคเกจจิ้งในฝันให้กับแบรนด์ของคุณได้นั่นเอง 4. งบประมาณ งบประมาณการผลิต และต้นทุนของแพคเกจจิ้ง คืออีกข้อสำคัญที่ต้องคำนึงถึงก่อนเริ่มลงมือออกแบบ ทั้งนี้ต้นทุน หรือเรื่องเงินๆทองๆของการผลิตแพคเกจจิ้งที่ว่า จะแบ่งออกได้เป็น 2 กรณี คือ ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นเพื่อการออกแบบ ครอบคลุมถึง ค่าจ้างออกแบบ ค่าแม่พิมพ์ ซึ่งค่าใช้จ่ายในหมวดนี้ มักจ่ายกันเพียงครั้งเดียวเพื่อการใช้ที่ยาวนาน ต้นทุนต่อชิ้น ซึ่งรวมถึงค่าวัสดุและค่าแรงงานที่ใช้ต่อแพคเกจจิ้งหนึ่งชิ้น นอกจากนี้ อย่าลืมว่า งบประมาณที่ถูกกว่าใช่ว่าดีกว่าเสมอไป เพราะการใช้วัสดุคุณภาพดี การออกแบบมีคุณภาพ จะสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับสินค้าให้ดูโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่งอย่างไรก็ตาม การออกแบบแพคเกจจิ้งที่ดี ให้มีภาพลักษณ์เตะตา น่าดึงดูด ที่คำนึงถึงความเหมาะสม และถูกใจทั้งฝ่ายผู้ซื้อและผู้ขายก็สามารถทำได้ในราคาประหยัด และต้นทุนที่ถูกกว่า สิ่งสำคัญอยู่ที่ความคิด ไอเดียและความเชี่ยวชาญในการออกแบบแพคเกจจิ้งนั่นเอง Credit: 99designs
รู้ไว้ ไม่เชย! เทรนด์แพคเกจจิ้งมาแรง ปี 2018
แพกเกจจิ้งออกแบบ 12 May 2020
เดี๋ยวนี้มองไปทางไหนก็เจอแพคเกจจิ้งสินค้า รูปร่าง น่าตาน่าสนใจ แต่แบบไหนกันนะ ที่ตอบโจทย์เข้ายุคสมัยได้ดีที่สุด? ถ้าคุณยังไม่รู้ รีบมาดูกันนะครับ กับเทรนด์ออกแบบแพคเกจจิ้งมาแรง รับปี 2018 ที่ LoCoPack รวบรวมมาไว้ให้ เดี๋ยวจะเชย เอ้าท์ หรือตกรุ่นไป แล้วจะหาว่าเราไม่เตือน :) 1. เรียบง่ายสไตล์มินิมัลเทรนด์การออกแบบสไตล์เรียบง่าย หรือที่วัยรุ่นติดปากเรียกกันว่า “มินิมัล” จริงๆแล้วเทรนด์นี้มีมาได้สักพักแล้วนะครับ แต่ว่าก็ยังถือเป็นเทรนด์มาแรงของช่วงปีหน้าอยู่ ทั้งนี้ทั้งนั้นหากคุณสนใจจะออกแบบแพคเกจจิ้งสไตล์มินิมัลกับเขาบ้าง โจทย์ใหญ่ที่ต้องตีให้แตกก็ คือการเสาะหา สัญลักษณ์ เครื่องหมาย ที่เชื่อมโยงไปถึงผู้พบเห็นซึ่งสามารถสื่อได้ชัดว่า สินค้าชนิดนี้คืออะไร ทำงานอย่างไร ได้มากที่สุด เพื่อให้แพคเกจจิ้งข้อความน้อย ดูเรียบง่ายได้มากนั่นเอง2. อบอุ่นใจด้วยสีพาสเทลจากที่ตกเทรนด์กันไปนาน สำหรับปี 2018 นี้นั้น ความฮอตฮิตของ “โทนสีพาสเทล” กำลังกลับมาอีกครั้ง! ด้วยโทนสีอบอุ่น แฝงความสงบเสงี่ยมแต่กิ๊บเก๋ ให้แพคเกจจิ้งที่ใช้สีพาสเทล ดูเป็นสินค้าที่เป็นมิตรกับผู้บริโภค นอกจากนี้คุณสมบัติของสีพาสเทลคือการทำหน้าที่เสมือนเป็น “แสงสว่าง” ไปในตัว ซึ่งแสงสว่างนี่ไงครับที่เป็นพลังงานดึงดูดผู้บริโภคให้สนใจ 3. สนุกได้ด้วยลายเส้นดูเดิ้ลDoodle หรือ ลายเส้นขยุกขยิก ที่กำลังฮิตมากในโลกออนไลน์ ได้ถูกจัดระบบเข้าเป็นดีไซน์แพคเกจจิ้งที่อินเทรนด์มากในปัจจุบัน ทั้งนี้เพราะนอกจากลายเส้นขยุกขยิก แบบไม่ได้ตั้งใจวาดขึ้นมาสามารถช่วยกระชากวัย สร้างความรู้สึกกระชุ่มกระชวย เหมือนได้หวนกลับไปนั่งวาดรูปเล่นสมัยเป็นเด็กได้แล้วนั้น ลายเส้นดูเดิ้ลยังสามารถสร้างอารมณ์สนุกสนาน ครื้นเครงให้กับตัวสินค้าได้มากเลยทีเดียว4. โปสเตอร์ภาพยนตร์นอกจากจะดูแปลกใหม่ ต้องตาผู้บริโภค แฟนคลับภาพยนตร์ และนักสะสมแล้ว การใช้สไตล์การออกแบบแพคเกจจิ้งที่อิงจากโปสเตอร์หนังเรื่องโปรด ยังเป็นกรรมวิธีบอกเล่าเรื่องราว และสื่อถึงภาพลักษณ์ ข้อมูลของสินค้าได้อย่างแนบเนียน5. ชัดเจนด้วยอักษรตัวใหญ่หากคุณคือเจ้าของสินค้าที่อยากนำเสนอข้อมูลของสินค้าให้กับกลุ่มลูกค้าแบบตรงไปตรงมา การเลือกใช้ตัวอักษรตัวใหญ่ เห็นชัด คือตัวเลือกเพื่อการออกแบบที่ใช่และน่าตรงใจเป็นที่สุด นอกจากนี้ยังสามารถเติมลูกเล่นด้วย การเลือกใช้ฟ้อนต์สวย สีที่ดูดี หรือแม้แต่การแต่งเสริมข้อความด้วยมุขตลก สนุกๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ6. โดดเด่นด้วยรูปทรงแปลกตาเหมาะสำหรับผู้ที่อยากสร้างความโดดเด่นให้สินค้า แต่ไม่อยากเน้นเฉพาะแค่เรื่องสี หรือข้อความบนแพคเกจจิ้ง การเลือกใช้แพคเกจรูปทรงแปลกใหม่ แปลกตาไปเลยคืออีกทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะเชื่อเถอะครับ ด้วยเอกลักษณ์ของรูปทรงแพคเกจนี้ ผลิตภัณฑ์ของคุณจะไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนอย่างแน่นอน7. วินเทจ เก่าๆแต่เก๋า เราจะก้าวสู่ยุคสมัยใหม่โดยไม่ให้ความสำคัญกับอดีตที่ผ่านมาไม่ได้ สำหรับวงการการออกแบบแพคเกจจิ้งก็เช่นกัน แม้จะก้าวเข้าปี 2018 แต่ทั้งนักออกแบบและผู้บริโภคล้วนต่างยังซูฮกแพคเกจจิ้งสไตล์วินเทจสุดเก๋ากันอยู่ นอกจากนี้แพคเกจจิ้งวินเทจ ยังให้ความรู้สึกถึงความละเอียดชดช้อย ของทั้งเรื่องการออกแบบ และตัวผลิตภัณฑ์8. ออกแบบด้วยภาพถ่ายการผสมผสานภาพถ่ายลงในการออกแบบแพคเกจจิ้ง เช่น การใช้วิธี Collage คืออีกเทรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองนะครับ เพราะลูกเล่นดังกล่าวมักให้มุมมองแปลกใหม่ น่าหยุดดูอยู่เสมอ อย่างในภาพตัวอย่างต่อไปนี้ ที่ผู้ออกแบบนำภาพถ่ายของเจ้าหมีมาตัดแปะกับอุปกรณ์ของพ่อครัว เกิดเป็นดีไซน์ของอาหารกระป๋องที่แปลกใหม่ดูสนุก น่ามองอยู่ไม่น้อย9. เทคนิคฮอโลกราฟีการนำเอาเทคนิคโฮโลกราฟีมาใช้กับการออกแบบผลิตภัณฑ์ คือ อีกหนึ่งดีไซน์สำหรับยุคสมัยใหม่อย่างแท้จริง นอกจากเสริมสร้างลุคหรูหราให้กับสินค้า การใช้โฮโลกราฟีกับวัสดุชนิดใดๆก็ตาม สามารถเปลี่ยนจากกระดาษ หรือพลาสติกธรรมดาๆ ให้มีลูกเล่นทั้งแสงและเงาที่น่าดูชม10. ไล่สี เพื่อความทันสมัยลองดูไอคอนของอินสตราแกรมรุ่นใหม่ดู คุณสามารถสัมผัสได้ถึงความทันสมัยมากกว่าเดิมใช่ไหมครับ? นั่นไงล่ะ คือสิ่งที่การออกแบบด้วยเทคนิคไล่สี สามารถทำให้ผู้พบเห็นสัมผัสได้ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์บนท้องตลาดอีกหลายชิ้นเริ่มหันมาใช้ลูกเล่นนี้กันมากขึ้น เพราะใครเล่า จะไม่อยากให้สินค้าของตัวเองดูดี ทันสมัย ขึ้นมากับเขาบ้างCredit: 99designs